Saturday, August 14, 2004

ดูดาวในคืนไฟดับ

เพิ่งรู้สึกตัวว่าไม่ได้ดูดาวมานาน ปกติก็ไม่ได้ดูเป็นชิ้นเป็นอัน แต่อย่างน้อยๆพอจะมีโอกาสมองดูฟ้าในคืนฟ้าใสไม่มีเมฆและได้ชื่นชมกลุ่มดาวที่ชอบอยู่บ้าง ไม่รู้ตัวเลยว่าโอกาสอย่างนั้นครั้งล่าสุดมันก็นานมาแล้ว คืนนี้มีโอกาสได้ดูดาวอย่างที่ชอบโดยไม่ได้ตั้งใจ

คืนวันศุกร์ใครๆก็ออกไปกินข้าวกับเพื่อนกันทั้งนั้น ไปด้วยคนซิ...ไปไกลถึงในเมืองโน่นแน่ะ เพื่อนฝูง 7 คน นั่งคุยตั้งแต่นั่งในร้านอาหารจนไปจบที่ร้านกาแฟ ตั้งแต่เย็นยันเที่ยงคืน(คาดว่าจะรอให้รถกลายเป็นฟักทองก่อนค่อยกลับบ้าน) คุยกันเหมือนไม่ได้เจอกันนานแสนนานทั้งๆที่ทำงานอยู่ที่เดียวกัน กินข้าวด้วยกันแทบทุกวัน ในที่สุดได้เวลากลับบ้าน กลับถึงบ้านเที่ยงคืนเศษ ยังไม่ได้นอน มัวแต่เข้ามาเล่นเน็ต เล่นไปเล่นมา...ตีสอง ยังไม่อยากนอน ดู VCD อีกนิด กำลังง่วงได้ที่ตั้งใจจะหลับไฟก็ดับพรึ่บ !!!

ทีแรกยังงัวเงียคิดว่าเป็นแค่ไฟทีวีที่ตั้งเวลาไว้ แต่เอ๊ะ...มันมืดหมดเลย ข้างนอกตึกก็มืด ไฟถนนก็ไม่มี อืมม์..อย่านะ กลัวนะ อย่าเล่น..บ่นไปก็ไม่มีประโยชน์ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนอีกแล้ว เดินกุกๆกักๆไปหาไฟฉาย หาเทียน แล้วจุดเทียน5-6 แท่งวางเต็มบ้านไปหมด โรแมนติกเหลือเกิน ดูนาฬิกา ตีสองครึ่ง! แย่แล้วทำไงดี... มีพี่ชายคนนึงแกนอนดึก บางทีก็ไม่ดึก สว่างเอาเลย คาดว่าคืนนี้แกยังไม่นอน โทรไปหาดีกว่าจะได้มีคนคุยระหว่างไฟดับ เจ้ากรรม คืนนี้ดันเป็นคืนที่พี่แกนอนเร็ว โทรไปเจอเสียงงัวเงียๆ โดนด่าอีกแน่เลยเรา วางหูดูจะปลอดภัยกว่า...

ทำไงดี จะนอนก็ไม่ได้ อ่านหนังสือ ดูทีวีก็ไม่ได้ เหลืออย่างเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือออกไปดูดาว ว่าแล้วก็เดินออกไปที่ระเบียง มองไปแล้วก็ตะลึงเพราะคืนนี้ดาวเต็มฟ้าไปหมด ไม่มีเมฆเลย ไม่มีไฟถนนมาส่องตา ดาวดวงเล็กดวงน้อยก็มีโอกาสมาอวดโฉมกันจนลานตา

ระเบียงห้องฉันหันไปทางทิศเหนือพอดี จะมองเห็นดาวเหนืออยู่ตรงหน้า ไม่สว่างนักสูงจากพื้นดินประมาณ 14 องศา เวลาเกือบตีสามของวันที่ 14 สิงหาคม มองไปตรงหน้าจะเห็นดาวค้างคาว(Cassiopeia)เป็นตัว M ใหญ่ชัดเจน ข้างใต้มีกลุ่มดาวเซเฟอุส(Cepheus) ทางขวาของแคสซิโอเปียมีกลุ่มดาวเปอร์เซอุส(Perseus)ฟ้าใสจนเห็นดาวเมอร์แฟคที่เป็นสะดือของเปอร์เซอุสได้ชัดเจน(ความจริงเมอร์แฟคแปลว่าข้อศอก)จากระเบียงจะมองไปได้ไม่เต็มฟ้าเพราะถูกมุมตึกและหลังคาบังอยู่ มองไปทางซ้ายมือไกลออกไปจะเห็นกลุ่มดาวหงส์ กับดาววีกา มองไกลไปทางขวาจะเห็นกลุ่มดาวสารถีกำลังขึ้นเห็นดาวคาเพลล่าชัดเจน มองสูงขึ้นอีกนิดก็เจอกระจุกดาวลูกไก่ ฟ้ามืดขนาดนี้เห็นทางช้างเผือกพาดผ่านกลุ่มดาวแคสซิโอเปีย เปอร์ซีอุสไปทางคาเพลล่า ....โกโบริจะรู้จักดาวพวกนี้บ้างไหม หรือจะดูดาวแต่เฉพาะวันที่ 7 เดือน 7 ที่นัดกับอังศุมาลินไว้...

ลมเย็น...ดาวสวย...ยืนดูดาวได้พักนึงก็มีลูกไฟวูบกลางท้องฟ้า ดาวตกดวงโตวิ่งผ่านแคสซิโอเปีย วิ่งเร็วจนอธิษฐานไม่ทัน...คอยอีกครู่นึง ดวงที่สองตามมาอีก สีส้มจางๆสวยจัง... ดูแล้วนึกถึงเพลงประกอบภาพยนต์ Aladdin
" I am like a shooting star
I come so far
I can't go back to where I used to be..."

แล้ว..ไฟฟ้าก็กลับมาทำหน้าที่ ตีสามสิบนาทีโดยประมาณ เสียดายนิดๆที่ไม่ได้ได้ดูดาวต่อ เพราะเมื่อไฟถนนทำงาน แสงจะกลบแสงดาวจนมองไม่ชัด ฉันกลับมาเขียนความประทับใจเล็กๆน้อยๆใน blog นี้ เขียนได้3-4 ย่อหน้าก็เดินออกไปดูดาวอีก เพิ่งพบด้วยความประหลาดใจว่าขอบฟ้าทางทิศตะวันออกมีดาวสุกใสสว่างมาก สว่างกว่าดาวทุกดวงบนท้องฟ้า ดูระยะแล้วน่าจะอยู่ประมาณกลุ่มดาวคนคู่ เป็นดาวประกายพรึกดวงโปรดของฉันนั่นเอง ไม่ได้เห็นตอนเย็นๆมาพักใหญ่มาแอบเป็นดาวตอนเช้าก็ไม่บอก ทำให้งง...

ตีสี่สิบนาที....หมดเวลาโรแมนติกแล้วล่ะ...

No comments: