Monday, February 24, 2014

วิกฤตศรัทธาต่อธนาคารออมสิน กุมภาพันธ์ 2557

เดือนกุมภาพันธ์ 2557 คงเป็นเดือนแห่งความทรงจำที่เลวร้ายในประวัติของธนาคารออมสิน ธนาคารที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 เป็นผู้ก่อตั้ง

วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์มีการยืนยันว่ารัฐบาล ได้ให้ธนาคารออมสินปล่อยเงินกู้ระหว่างธนาคารต่อธนาคาร (อินเตอร์แบงก์) ให้กับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อนำไปใช้แก้ปัญหาโครงการรับจำนำข้าว การดำเนินการดังกล่าวนี้เป็นที่สงสัยว่าว่าจะผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 181(4) หรือไม่ 

16 ก.พ. นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ได้ออกมาแถลงข่าวว่า ธนาคารออมสินได้มีการปล่อยกู้ในลักษณะดังกล่าวให้กับ ธ.ก.ส.จริง ในวงเงิน 2 หมื่นล้านบาท นายวรวิทย์ ได้ปฏิเสธว่าทาง ธ.ออมสิน ไม่ทราบว่า ธ.ก.ส.จะนำเงินดังกล่าวไปใช้อะไร เพราะการให้กู้ในลักษณะดังกล่าวปกติเป็นไปเพื่อเสริมสภาพคล่องของธนาคารนั้น
       
        ในวันเดียวกัน สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจธนาคารออมสิน (สร.อส.) ได้ออกแถลงการณ์ด่วนเรื่อง “ขอให้ยกเลิกการปล่อยกู้อินเตอร์แบงก์ (Interbank) ให้กับ ธ.ก.ส.” โดยระบุว่า การดำเนินการปล่อยกู้ดังกล่าวส่งผลกระทบในวงกว้างแล้ว เนื่องจากความไม่เข้าใจและทำให้ผู้ฝากและสาธารณชนทั่วไปเกิดข้อกังขา
       
        “ตามที่ธนาคารออมสินได้ให้กู้ Interbank ให้กับ ธ.ก.ส.ปรากฏว่า เกิดผลกระทบในวงกว้าง จากความไม่เข้าใจและเกิดข้อกังขากับผู้ฝากและสาธารณชนทั่วไป แม้ว่าการดำเนินธุรกรรมดังกล่าวนี้ไม่ได้เกี่ยวโยงหรือเกี่ยวข้องกับการปล่อยกู้โครงการจำนำข้าวก็ตาม”  พร้อมกันนั้น สร.อส.ได้เรียกร้องให้ผู้บริหารพิจารณาดำเนินการ 3 ข้อ คือ หนึ่ง หยุดการให้กู้อินเตอร์แบงก์แก่ ธ.ก.ส.โดยทันที เนื่องจาก ธ.ก.ส.มีสภาพคล่องสูงเพียงพอแล้ว, สอง ให้ทวงถาม ธ.ก.ส.และให้ ธ.ก.ส.คืนเงินที่ขอยืมไปจากธนาคารออมสินจากการกู้อินเตอร์แบงก์ดังกล่าวโดยทันที เพราะถือว่าไม่มีความจำเป็นและไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ และ สาม งดการให้กู้ใดๆ ก็ตาม ที่จะลุกลามกระทบถึงความเชื่อมั่นต่อลูกค้าและประชาชนทั่วไป อันอาจจะเกิดความเสียหายต่อธนาคารออมสิน
       


17 กุมภาพันธ์  2557 ประชาชนแห่กันไปถอนเงินจากธนาคารออมสินเพราะไม่พอใจที่ธนาคารเข้าไปสนับสนุนโครงการรับจำนำข้าว ถือว่าเป็นการดูถูกประชาชน ด้วยการตัดสินใจพลาดของผู้บริหารธนาคารออมสิน ส่งผลให้วันแรกมียอดถอนเงินสามหมื่นล้านในขณะที่มีเงินเข้าประมาณหมื่นล้าน ออมสินบาดเจ็บสาหัส

18 กุมภาพันธ์ 2557 เสื้อแดงประกาศว่าจะนำแดงฝากออมสินเท่าที่ถอน ส่งผลให้ประชาชนยังคงถอนเงินออกจากธนาคารอย่างต่อเนื่องอีก 4 หมื่นล้านบาท 
ผู้อำนวยการธนาคารออมสินลาออกท่ามกลางการขุดคุ้ยประวัติที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนทักษิณ

19 กุมภาพันธ์ 2557 ยังคงมีการถอนเงินอย่างต่อเนื่อง รวมสามวันยอดถอนเงินร่วมแสนล้าน ในขณะที่มียอดฝากเข้ามา หักลบแล้วถอนมากกว่าฝากประมาณหกหมื่นกว่าล้านบาท โดยธนาคารออมสินได้เรียกคืนเงินที่ให้ธกส.กู้กลับทั้งหมดเพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า แต่ก็ยังคงมีความพยายามที่จะประท้วงให้บอร์ดของธนาคารออมสินออกไปด้วย

20 กุมภาพันธ์ 2557 ยังคงมีการถอนเงินออก  แต่หลังจากสามวันวิกฤต ข่าวธนาคารออมสินก็ซาลง ถึงอย่างไรเข้าใจว่าคงหาเงินกลับเข้าไปเหมือนตอนถอนคงจะยาก


บทเรียนนี้สอนให้รู้ว่า  อย่าดูถูกประชาชน



ภาพนี้ถ่ายเวลา 7.34 น.ของวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557 กระแสยังไม่ซา

Sunday, February 16, 2014

เรือนไทยวิชาการ...สุดยอดจริงๆ

ปกติจะเข้าดูกระทู้ในพันทิปมาตลอดหลายปี  จนปีที่แล้วที่พันทิปเปลี่ยนโฉมใช้ระบบแท็กทำให้บรรยากาศของแต่ละห้องเปลี่ยนไป  หลากหลายขึ้น  แต่คุณภาพลดลง และความสนิทสนมของคนในห้องหายไป  ก็เลยไปหาที่สิงสถิตย์ที่อื่น  มาหยุดที่ เรือนไทยวิชาการ ทีปรกเข้ามาเพราะกระทู้จุฬา อุตส่าห์สมัครสมาชิกเสร็จสรรพ  แต่โพสต์ไม่ทัน ลืม ปล่อยจนกระทู้ตกก็เลยไม่ได้โพสต์อะไร  จนมาวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 จึงได้เริ่มโพสต์เรื่องเก่าที่เคยได้ยิน  เหลือเชื่อมากที่สมาชิกสามารถตอบได้
สุดยอดจริงๆค่ะ  :)

admin ของเรือนไทยคือคุณเทาชมพู ซึ่งก็คืออาจารย์ รศ.ดร.วินิตา ดิถียนต์ หรือ ว.วินิจฉัยกุล  หรือ แก้วเก้า เป็นไอดอลด้านการเขียนเลยทีเดียว

เคยเกิดเหตุอาคารถล่มบริเวณอาคารริมถนนราชดำเนินกลางหรือไม่คะ
Singing Blue Jay
อสุรผัด
*
ตอบ: 10


ดูรายละเอียด อีเมล์ ข้อความส่วนตัว (ออนไลน์)
 เมื่อ 13 ก.พ. 14, 23:42ตอบโดยอ้างถึงข้อความอ้างถึง

ได้เห็นการตอบแบบลงรายละเอียดของแต่ละท่านในเรือนไทย ก็เลยกล้าถามค่ะ ว่าในอดีตช่วงที่เพิ่งสร้างอาคารริมถนนราชดำเนินกลางเสร็จใหม่ๆเคยเกิดกรณีอาคารถล่มหรือไม่คะ

คุณพ่อของดิฉันเป็นคนต่างจังหวัดเข้าไปเรียนหนังสือที่กรุงเทพเมื่อประมาณเจ็ดสิบปีที่แล้ว เล่าว่า วันแรกที่ไปถึงไปพักที่วัดมหาธาตุ วันรุ่งขึ้นอาคารใหม่ก็ถล่ม เสียงดังสนั่นมาก ก็เลยไม่แน่ใจว่าเคยมีกรณีอย่างนี้หรือไม่ (ไม่แน่ใจเรื่องปี พ.ศ.ค่ะ น่าจะเป็นช่วงปี 248X เพราะขณะนี้คุณพ่ออายุ 88 ปี)

ขออนุญาตถามต่ออีกเรื่องด้วยนะคะ  คุณแม่สมัยสาวๆก็เข้าไปเรียนตัดเสื้อโดยมีที่พักอยู่ในโรงเรียนสอนตัดเสื้อแถวอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ที่เรียนคืออาคารมุมอนุสาวรีย์ด้านที่ตรงข้ามกับโรงเรียนสตรีวิทยา ตอนนี้เป็นอะไรก็ไม่ทราบค่ะ ดิฉันไม่ค่อยได้เข้ากรุงเทพ ต้องระบุแบบภาพที่จำได้ว่า มีอาคารภัตตาคารศรแดง  มีอาคารที่เคยเป็นที่ทำการบริษัทเมืองโบราณ  มีโรงเรียนสตรีวิทยา และก็มีอาคารที่คุณแม่ดิฉันพูดถึงนี่ละคะ อยากทราบว่าอาคารนั้นเป็นอาคารของใคร มีประวัติยังไงคะ

อารมณ์ถามเรื่องสมัยคุณพ่อคุณแม่นะคะ ต้องมาถามแถวนี้เพราะเวลาถามคุณพ่อก็ไม่ได้รายละเอียดมากนัก คุณแม่ก็ไม่อยู่ให้ถามแล้วค่ะ ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ


เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 25420

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์ ข้อความส่วนตัว (ออฟไลน์)
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 14 ก.พ. 14, 08:03ตอบโดยอ้างถึงข้อความอ้างถึง

เคยมีตึกถล่มจริงค่ะ
เป็นตึกหลังเดิมตรงหัวมุมสี่แยกคอกวัว   อยู่มุมตรงข้ามคนละฝั่งกับตึกธนาคารออมสิน   เคยยุบตัวพังลงมาในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ว่ากันว่าเป็นเพราะคอรัปชั่นกินอิฐกินหินกินทรายกินเหล็กกันในการก่อสร้าง  ทำให้ตึกทานน้ำหนักไม่พอจึงทรุดตัวพังลงมา
ตึกนี้ต่อมาได้รื้อและสร้างขึ้นใหม่เป็นสถานีวิทยุ ททท.ของบริษัทไทยโทรทัศน์ ต่อมาถูกประชาชนและนักศึกษาเผาในวันที่ 14 ตุลาคม 2516  จึงกลายเป็นที่ดินว่างๆ
หลายปีต่อมากลายเป็นที่ตั้งซุ้มขายสลากกินแบ่ง   ปัจจุบันคือที่ตั้งอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ค่ะ

ส่วนร.ร.สอนตัดเสื้อ ดิฉันไม่ทราบ  แต่จากที่คุณบรรยายมา น่าจะเป็นบริเวณร้านอาหารวิจิตร ในปัจจุบันละมังคะ
ต้องรอผู้รู้มาตอบค่ะ



Friday, February 07, 2014

Internet Meme ชัชชาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี

แถวๆสี่ทุ่มเปิดไปดูข่าวช่อง TNN พูดถึงปรากฏการณ์ชัชชาติฟีเวอร์ เป็นรัฐมนตรีที่มีคนทำภาพล้อเลียนมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยเฉพาะคอสเพลย์สุดฮิต หนุ่มชุดดำเท้าเปล่าถือถุงแถง ความจริงเห็นมาพักนึงแล้วแต่ไม่คิดว่ามาฮิตขนาดนี้  ส่วนภาพและคำล้อเลียนต่างๆต้องบอกว่าไวมากๆ บางภาพเพิ่งเห็นโพสต์ในเพจของชัชชาติไม่นานก็ถุกนำมาทำภาพใหม่ ตอนนี้ฉายา "ชัชชาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี" กลายเป็นอินเทอร์เน็ตมีม(Internet Meme)ที่แรงที่สุดตอนนี้ทีเดียว 555

แรกๆก็งงว่าคำว่า"ชัชชาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี" มาจากไหน ปรากฎว่ามาจากการ์ตูนเรื่องบากิ ที่มีตัวละครชื่อฮันมะ ยูจิโร หุ่นประมาณชัชชาติ และมีฉายาว่า สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี เป็นพ่อของฮันมะ บากิ ตัวเอกของเรื่อง

ส่วนคำหยามเหยียดยอดฮิต "อ่อนหัด มีความตั้งใจ แต่ก็อ่อนหัด" ก็มาจากเรื่องบากิเช่นกัน เป็นตอนที่ ฮันมะ ยูจิโรพูดสบประมาทลูกชายตัวเอง(ฮันมะ บากิ)ว่า "อ่อนหัด มีความตั้งใจ แต่ก็อ่อนหัด" ไม่น่าเชื่อว่าจะเอาการ์ตูนแนวต่อสู้มาลิงก์กับชัชชาติได้ 

ส่วนตัวเคยชื่นชมชัชชาติมาตลอดตั้งแต่สมัยเรียนเพราะเห็นว่าเรียนเก่งระดับได้ทุนอานันทมหิดลซึ่งคนที่ได้ทุนนี้ปกติเราถือว่าไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา ต้องนับเป็นระดับเทพ....... แต่ถ้าเทพมาอยู่พรรคมารเราก็ไม่ชื่นชมนะ


มีสื่อเยอะแยะที่ทำล้อเลียนชัชชาติ
คลิปวิดิโอ เสือร้องไห้ - ชัชชาติดาดั๊ด คนไร้พ่าย (คนใจง่าย)
เฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/chutchartpower "ชัชชาติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี"

Sunday, February 02, 2014

NO VOTE ค่ะ

NO VOTE!
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นวันเลือกตั้ง จะเป็นครั้งแรกที่ชีวิตตั้งแต่มีสิทธิ์ออกเสียงมา ที่จะไม่ไปเลือกตั้งโดยจงใจ

การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกต่อต้านจาก กปปส.และประชาชนอีกนับล้านที่ต้องการให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่นำพา ยังคงมีมติให้ดำเนินการเลือกตั้งต่อไป ทั้งๆที่สถานการณ์ชัดเจนว่าการเลือกตั้งจะต้องเป็นโมฆะเพราะมีจำนวนหน่วยเลือกตั้งในหลายจังหวัดที่จะไม่มีบัตรเลือกตั้ง  ไม่มีเจ้าหน้าที่ กกต,ประจำหน่วย เพราะมีการสกัดบัตรเลือกตั้งที่สามไปรษณีย์ใหญ่ของภาคใต้คือที่ชุมพร ทุ่งสงและหาดใหญ่ มีกปปส.และประชาชนไปปิดล้อมไว้

ขณะนี้บ่ายโมงเศษ ก็เห็นได้ชัดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้เข้าไปเลือกตั้งได้น้อย บางที่เข้าไปไม่ได้เลย บางที่ไม่มีเจ้าหน้าที่จนต้องประกาศปิดหน่วย  สามพันกว่าล้านที่นำมาจัดการเลือกตั้ง เอาไปให้ชาวนาค่าจำนำข้าวจะดีกว่าไหม

ประชาธิปไตยให้สิทธิ์กับเสียงข้างมาก แต่หากเสียงข้างมากเหล่านั้นกลายเป็นเครื่องมือให้ผู้รับมอบอำนาจไปทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง คดโกง กอบโกย ทำให้ประเทศชาติเสียหาย หรือพูดกันชัดๆก็คือทำให้เสียงข้างมากที่เลือกไปนั่นแหละเสียประโยชน์(ซึ่งดูเหมือนเสียงข้างมากเหล่านั้นจะไม่เข้าใจว่าตัวเองเสียประโยชน์อย่างไร) เสียงข้างมากเหล่านั้นยังคงตัดสินใจสนับสนุนคนโกงอยู่อีกหรือ 

ช่วยตัดสินใจด้วยสมองและ......จริยธรรมเถอะนะ

ขอเป็นเสียงส่วนน้อยที่มั่นใจว่าเรามีจริยธรรม เราเลือกความถูกต้องเพื่ออนาคตของชาติ ...... NO VOTE ค่ะ



==========================================================
ข้อมูลจากสำนักข่าวอิศรา   
http://www.isranews.org/isranews-news/item/27014-korkortor_27014.html
เมื่อวันที่ 3 ก.พ.2557 แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า สำหรับจำนวนผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 2 ก.พ.2557 เฉพาะใน 66 จังหวัดที่ไม่มีปัญหาเรื่องการลงคะแนน ปรากฏว่า จากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ทั้งหมด 39,375,057 คน มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ทั้งหมด 20,051,337 คน คิดเป็นร้อยละ 50.92 โดยจังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งในอัตราส่วนมากที่สุด ได้แก่ จ.ลำพูน ที่มีผู้มาใช้สิทธิถึงร้อยละ 81.96 (จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 331,343 คน มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 271,566 คน) ส่วนจำนวนที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งในอัตราส่วนน้อยที่สุด ได้แก่ จ.สมุทรสาคร ได้แก่ จ.สมุทรสาคร ที่มีผู้มาใช้สิทธิเพียงร้อยละ 20.00 (จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 385,863 คน มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 77,172 คน)
สำหรับจังหวัดอื่นๆ ที่น่าสนใจ มีอาทิ จ.เชียงใหม่ บ้านเกิดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 1,254,863 คน มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 876,113 คน คิดเป็นร้อยละ 69.82 จ.อุดรธานี จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 1,169,274 คน มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 701,564 คน คิดเป็นร้อยละ 60.00 จ.สุพรรณบุรี บ้านเกิดนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 661,499 คน มาใช้สิทธิเลือกตั้ง400.804 คน คิดเป็นร้อยละ 60.58 เป็นต้น
เมื่อแยกเป็นรายภาค ภาคกลาง 25 จังหวัด จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 12,443,324 คน มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 5,273,199 (ร้อยละ 42.36) ภาคเหนือ 17 จังหวัด จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 9,097,707 คน มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 4,915,774 คน (ร้อยละ 54.03) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 16,503,780 คน มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 9,265,309 คน (ร้อยละ 56.14) และภาคใต้ เฉพาะ 4 จังหวัดชายแดน จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 1,330,246 คน มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 597,055 คน (ร้อยละ 44.88)
ecsum1
ecsum3
ecsum2
ecsum4
ecsum5
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศ ในปี 2557 น้อยกว่าการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศ ในปี 2554 เป็นอย่างมาก โดยครั้งนั้น มีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 46,921,682 คน มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 35,203,107 คน คิดเป็นร้อยละ 75.03
ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ รายงานว่า นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เปิดเผยภายหลังการประชุมกกต.ถึงจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กพ.ที่ผ่านมา ว่า ตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการมีผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 20,468,646 คน จากจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งใน 68 จังหวัดที่ไม่รวม 9 จังหวัดภาคใต้ที่ไม่มีผู้สมัคร ส.ส.เขต 44,649,742 คน คิดเป็นร้อยละ 45.84 โดย จ.ลำพูน เป็นจังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากที่สุด ร้อยละ 72.8 ลำดับที่ 2 หนองบัวลำภู 72.50 และลำดับที่ 3 จ.บึงกาฬ มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งร้อยละ 70 ขณะที่ จ.นครศรีธรรมราช มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งน้อยที่สุด ร้อยละ 0.11 โดยมีประชาชน มาใช้สิทธิ์ 1,292 คนจากจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด 1,153,060 คน เพราะสามารถจัดให้มีการเลือกตั้งได้เพียง 24 หน่วยเท่านั้น อย่างไร ก็ตามผลที่เป็นทางการจะทราบในวันพรุ่งนี้ เพราะจะมีการประชุมของผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดที่จะมีการรายงาน ผลการเลือกตั้งแต่ละจังหวัดให้ กกต.ทราบรวมถึงการกำหนดวันเลือกตั้งทดแทน เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดด้วย ทั้งนี้จำนวนผู้มาใช้สิทธิจะสมบูรณ์หลังการจัดการเลือกตั้งทดแทนหน่วยเลือก ตั้งที่ไม่สามารถจัดได้ รวมถึงการเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด