Monday, March 24, 2014

เรื่องน่ารู้จากรหัสลับหลังคาโลก

ในหนังสือเล่มนี้มีการพูดถึงอะไรหลายๆอย่างที่เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย  เสียดายที่ไม่คิดจะบันทึกตั้งแต่ตอนอ่านเล่มแรก มารู้ตัวเอาแถวๆเล่ม 10 และหนังสือมีทั้งหมด 11 เล่ม  ^_^


เล่ม 10 หน้า 261 แก้วหลิวหลี ในเรื่องเป็นตอนที่จัวมู่เฉียงปากับโมคินเดินลอดอุโมงค์ใต้น้ำ ผนังอุโมงค์เป็นแก้วใส โมคินอธิบายว่านี่เป็นแก้วหลิวหลี เป็นศิลปะเครื่องแก้วชั้นสูงของจีนโบราณตั้งแต่หนึ่งพันปีก่อนคริสตกาล ถือเป็นของมีค่าระดับเดียวกับ มรกต หยกและไข่มุก ได้รับการกล่าวขานในบันทึกโบราณ แล้วสูญหายไป

ลองไปค้นกูเกิลดูทีแรกพบว่ามีพวกอาจารย์ดูดวงบางคนมาหลอกลวงว่าแก้วหลิวหลีเป็นอัญมญีธรรมชาติเป็นหินภูเขาไฟ  แล้วก็มีปรมาจารย์อีกคนมาแฉว่าจริงๆมันเป็นแก้วที่หลอมจากเตาไฟนี่แหละ เพียงแต่เป็นงานศิลป์โบราณ

ปัจจุบันมีบริษัทไต้หวันได้ผลิตแก้วหลิวหลีคุณภาพออกจำหน่ายทั่วโลก สวยมากจริงๆ



ภาพจาก http://www.liuli.com/en-us/new_artifact.aspx?guid=MjYzMzUz&cid=MTU3 เป็นตัวอย่างแก้วหลิวหลีที่สวยมากทีเดียว
Embodiment of Beauty - Lush Peach Blossom
Accommodate
An open heart,
Conditions shift according to your mood,
Making everything even more fulfilling.

จาก วิกิพีเดีย

"Liuli" means ancient Chinese glass/crystal. It has a lineage stretching back thousands of years, first making its appearance in the 11th century BC. The art of Liuli left an indelible trail throughout Chinese history until the 19th century when China opened its door to imported goods, and effectively stifled traditional artisan skills.
The discovery in 1968 of the tomb of Liu Shun, a nobleman from Man-Chung County in Hopei Province, unearthed the earliest recorded example of pate-de-verre. A glass ear cup was found behind the renowned "jade suit with gold thread." Archaeologists confirmed the glass material was of Chinese origin, indicating the pate-de-verre technique was indeed indigenous to China. This revelation was astounding and engendered in the group of artists a profound sense of mission to revive the artistry embedded in their own ancestry.

Liuli Gongfang or Liuligongfang (琉璃工房) is Taiwan's only contemporary glass studio devoted to artistic Chinese glassware. Since its establishment in 1987 Liuligongfang has become known in Asia and abroad for its outstanding artistic endeavours and its high standard of craftsmanship.[1]

ส่วนในเว็บนี้ให้ข้อมูลว่า "อำเภอโป๋ซาน มณฑลซานตง ทางภาคกลางของจีน เป็นแหล่งผลิต"หลิวหลี-คริสตัลเทียม"สำคัญของจีน มีการผลิตตั้งแต่ราชวงศ์ถัง ซึ่งห่างจากปัจจุบันประมาณ 1,400 ปี และผลิตเป็นผลงานที่มีขนาดใหญ่ในต้นราชวงศ์หมิง ในงานประดิษฐ์ทั้งหลายเหล่านี้นั้น ลูกแก้วหลิวหลีมีมากที่สุด ลูกแก้วเล็กๆ ที่เด็กชอบเล่นก็เป็นลูกหลิวหลีด้วย ยังมีภาชนะบรรจุลายหลากสี สวยงามประณีต โดยเฉพาะแจกัน เครื่องเขียน"

หน้า 23 เล่ม 11 พูดถึง ความกลัวสามเท่า มนุษย์จะกลัวสิ่งที่ใหญ่กว่าตัวเองสามเท่า เช่น เด็กช่วงอายุสี่ขวบจะกลัวผู้ใหญ่เพราะมีความสูงประมาณสามเท่าของตัวเอง

หน้า 81 เล่ม 11 พูดถึงตัวเลขเก้าช่องของราชวงศ์ถัง ในหนังสือนำมาเป็นกลไกหมากรุกปิดประตูห้อง

หน้า 101 เล่ม 11 พูดถึงแก้วโมราส ถูกสร้างขึ้นด้วยเทคนิคพิเศษที่ทำให้มองเห็นลวดลายของแก้วแตกต่างกันเมือมีแสงมากน้อยต่างกัน

หน้า 134 เล่ม 11 พูดถึงจิ่วกงเปี้ยน คล้ายๆรุบิค เป็นแนคิดเหมือนเอาลูกปิงปองหลายลูกอัดไว้เต็มอ่างที่มีน้ำ ลูกปิงปองจะพยายามลอยตัวขึ้น  แต่เมื่อเพิ่มลูงปิงปองเข้าไปอีกจะทำให้ลูกปิงปองเคลื่อนที่ไปแบบสุ่ม ห้องลับในวิหารศักดิ์สิทธิ์ถูกสร้างด้วยแนวคิดนั้น

หน้า 143 เล่ม 11 พูดถึงวิชาจุดโคมของกรีกโบราณ เมื่อโคมห้องหนึ่งถูกจุด ห้องข้างๆสี่ห้องจะสว่างด้วย เมื่อดับโคมห้องข้างๆทั้งสี่ก็จะดับ ในห้องที่เรียงเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสจะต้องจุดโคมกี่ดวงทุกห้องจึงจะสว่างทั้งหมด วิชานี้คล้ายๆวิชาหมุนล้อของไอยคุปต์และวิชาตอกอิฐของจีนโบราณ


ไว้ถ้ามีเวลาค่อยบันทึกเพิ่ม มีเกร็ดเล็กเกร็น้อยมากมาย ค้นทีเดียวไม่ไหว ^_^

11 ตุลาคม 2560

หลังจากอ่านหนังสือชุดนี้อีกรอบครบ 11 เล่ม ก็บันทึกเพิ่เติมถึงสิ่งน่ารู้จากหนังสือแต่ละเล่มค่ะ
รหัสลับหลังคาโลก

เล่มที่ 1
  1. หน้า 270-271 มีการพูดถึงว่า ในปีค.ศ.1844 นักสำรวจชาวอังกฤษ ฟูมา มีเนเดอร์   เป็นผู้พูดถึงวิหารพาปาลา  ทีเนเดอร์เป็นแรงบันดาลใจของนักผจญภัยอีกหลายคน เช่น ไฮน์ริค ชไลมันท์ผู้พบเมืองทรอย  หรือ โรเบิร์ต อี แพร์ลีผู้สำรวจขั้วโลกเหนือ  

เล่มที่ 4
  1. หน้า 48 พูดถึงภูเขากังติซู หรือภูเขาสวัสดิกะเก้าชั้น ชื่อที่รู้จักกันคือเขาไกรลาศ ในพุทธศาสนาถือว่าเป็นศูนย์กลางชองจักรวาล ในศาสนาเชนถือเป็นดินแดนแห่งความหลุดพ้น ทางตะวันออกเฉียงใต้จะมีเจ้าแห่งทะเลสาปศักดิ์สิทธิ์ชื่อ มานาซาร์โรวาร์ (ทะเสลาปเทวา)ภูเขาและทะเลสาปคู่นี่ถูกเปรียบเปรยประหนึ่งสามีภรรยา ในบทบันทึกดินแดนตะวันตกแห่งราชวงศ์ถังของหลวงจีนเสวียจังหรือพระถังซำจั๋งได้เรียกทะเลสาปนี้ว่าบ่อทิพย์แห่งชมพูทวีป  ถัดไปจากทะเลสาปนี้มีทะเลสาปลักนาโช(ทะเสลาปผี) บางคนกล่าวว่าลักนาโซเหมือนตะวันเสี้ยวในขณะที่มานาซาร์โรวาร์ เป็นเหมือนดวงอาทิตย์กลมเกลี้ยง  เดิมทะเลสาปทั้งสองเชื่อมกันอยู่ ต่อมาแยกกันเพราะการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก น้ำในทะเลสาปเทวามีรสชาติใสหวานชื่นใจ แต่น้ำในทะเสาปผีมีขมฝาดรสแย่

ลองค้นกูเกิลแมปดู พื้นที่แถวนั้นน่าประทับใจจริงๆ

ไกรฃาส1.PNG
ไกรลาส2.PNG
ไกรลาส3.PNG

ไกรลาส4.PNG


  1. หน้า 350 Genetic Memory ความทรงจำทางพันธุกรรม

เล่ม  5
  1. หน้า 30 ความยากของการปีนหน้าาระดับสูงสุดคือ 5.12

เล่ม 6
หน้า  312 พูดถึง เซี่ยจื้อ สัตว์วิเศษในเทพนิยายจีนชนิดหนึ่ง ลักษณะคล้ายสิงโต มีเขาหนึ่งเขาบนหัว สามารถแยกแยะได้ว่าใครพูดจริงหรือเท็จ เป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญ ยุติธรรม

เล่ม 10
หน้า  260  พูดถึงแก้วหลิวหลี
หน้า 265 พูดถึง ห้าสีเร้นลับ  เครื่องเคลือบสีลับ(secret colour porcelain) เครื่องเคลือบหยูแก่งราชวงศ์ซ่ง
หน้า 295 พูดถึงกำแพงข่งหมิง กุญแจหลู่ปัน

หน้า 33 บันไดลอยฟ้าของหลูปัน

Sunday, March 23, 2014

Museum ในดวงใจ

ตั้งแต่เด็กๆ ก็มีความฝันที่อยากจะไปดูความเจริญของมนุษย์จากแหล่งที่เก็บสำคัญๆซึ่งก็คือพิพิธภัณฑ์ คิดว่าอาจจะได้แรงบันดาลใจจากหนังสือของทมยันตีซักเรื่องหนึ่งที่มีบทสนทนาพูดประมาณว่าถ้าจะรู้จักชีวิตคนที่ไหนให้ไปดูที่ตลาดและพิพิธภัณฑ์ของที่นั่น ส่วนตัวมีความเห็นเช่นเดียวกัน ทุกครั้งที่เดินทางจะพยายามเข้าไปสัมผัสชีวิตในตลาด...และพิพิธภัณฑ์

มีพิพิธภัณฑ์ในดวงใจไหม? แน่นอน เมื่อเราอ่านหนังสือไปมากๆก็จะรู้ว่ามีสิ่งสำคัญๆของโลกถูกเก็บอยู่ในพิพิธภัณฑ์ดังๆ หนังสือบางเล่มก็จะมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ ยิ่งอ่านก็ยิ่งอยากไป ที่ไหนบ้างเหรอคะ....มากเลยค่ะ

คิดว่าทุกคนต้องมีพิพิธภัณฑ์ลูฟร์อยู่ในรายชื่อพิพิธภัณฑ์ที่อยากไปเยี่ยมชม เหมือนกันเลย ลูฟร์เป็นที่แรกในลิสต์

ต่อจากนั้นก็มี British Museum เพราะอ่านหนังสือที่มีฉากอยู่ในอังกฤษหลายเรื่อง ใครๆก็ชื่นชมที่นี่ โดยเฉพาะบอกว่ามี collection ของอียิปต์ที่ดีมากๆ

ในเมื่อพูดถึงอียิปต์  พิพิธภัณฑ์ไคโร ก็เข้ามาในความคิดทันที เมื่อก่อนแอบสงสัยมาตลอดว่าในเมื่อไคโรอยู่ในอียิปต์ทำไมปล่อยให้ที่อื่นเอางานดีๆของชาติตัวเองไปล่ะ

พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ของประเทศไทยเรานี่แหละ  อยากไปมาก อยากเห็นว่าบ้านเรามีอะไร

พิพิธภัณฑ์วิคตอเรียแอนด์อัลเบิร์ต ได้ยินชื่อว่ามีของดีๆ   อะไรดีก็ไม่รู้  ^_^

สมิธโซเนี่ยน นี่เลย อยู่ในดวงใจตลอดมา (หลังจากโพสต์นี้ไปซักหกเดือนก็ได้ไปเยือนสมิธโซเนียนอย่างที่ตั้งใจค่ะ  ตื่นเต้นมากๆ)

พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ นี่ก็อยู่ในใจตลอดมาตั้งแต่เด็ก ไปเอกมัยก็เพื่อไปดูท้องฟ้าจำลองและเข้าพิพิธภัณฑ์นี้

แล้วในชีวิตจริงได้ไปชมที่ที่อยากไปไหม....ได้ไปซิ  ถึงจะไม่ครบตามที่เคยหวัง แต่พบว่าบนโลกใบนี้มีพิพิธภัณฑ์ดีๆอีกหลายแห่ง ได้เห็นหลายๆสิ่งที่ทำให้รู้สึกดีใจที่เกิดมาบนโลกใบนี้แล้วมีโอกาสดีๆได้แบบนี้  (เอามาแปะไว้ก่อนกันลืม รายละเอียดเยอะ ไว้ว่างแล้วค่อยๆใส่แล้วกัน)

พิพิธภัณฑ์ศิลปะ


1. Boston Museum of Fine Arts  พิพิธภัณฑ์นี้เพื่อนพาไปดูเพราะแวะไปเยี่ยมเพื่อนที่บอสตัน เมื่อปี 1992 เป็นที่แรกๆที่ได้ชมงานศิลป์ระดับดีๆ แต่ตอนนั้นตัวเองยังเป็นสายวิทย์จ๋า ไม่่ค่อยมีความรู้เรื่องงานศิลป์มากนัก น่าเสียดายจริงๆ  ชอบที่มีงานศิลป์ของฝั่งเอเชียเยอะเชียว

2. LA Museum of Contemporary Arts เนื่องจากไปทำงานแถว LA ก็ต้องไปเยี่ยมชมกันบ้าง ไปเดินเที่ยวกับเพื่อนรักชาวสิงคโปร์ (Mary Gan)กับ BF ของเขา (Lim Mu Chong) ไปช่วงปี 1992 เหมือนกัน ปกติไม่ค่อยถนัดแนว Contemporary ผ่านนะ

3. ลูฟร์ ได้ไปลูฟร์สองครั้ง ครั้งแรกไปกับทัวร์ พาคุณแม่ไปเที่ยวยุโรปเมื่อปี 1995 ได้ดูงานในลูฟร์ผ่านกระจกแค่นั้นเอง ทัวร์นี้ไม่ได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์....จบ  จนถึงปี 2013 คราวนี้ตั้งใจไปเดินพิพิธภัณฑ์อย่างจริงจัง เดินจนเหนื่อย เดินจนไม่มีแรงจะเดิน แต่ก็ยังอยากดูอีก ไม่จุใจเลย ลูฟร์มีอะไรให้ได้ดูมากจริงๆ ความที่เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ลูฟร์มีผลงานของศิลปินระดับเทพอยู่มหาศาล งานของลีโอนาโดดาวินชี เจ้าของผลงาน โมนาลิชา ที่ทุกคนต้องไปสักการะเมื่อเข้าลูฟร์ ผลงานชิ้นดังๆของ Rambrandt Vermeer Ruben Rafael David etc มากจนจำไม่หมด  ผลงานปฏิมากรรมก็มากมาย Wing Victory ที่เคยเห็นวางอยู่ตามโรงแรมก็ได้มาเห็นของจริง รูปปั้นวีนัสที่เห็นบนปกสมุดวาดเขียนมาตั้งแต่เด็กก็ได้เห็น แต่ผลงานที่ชอบมากที่สุดในหมู่งานเขียนกลับเป็นผลงานของ Girodet ชื่อ The burial of Atala

งานที่ต้องไปดูคือ ภาพวาดโมนาลิช่า รูปปั้นวีนัส wing victory ภาพวาดอื่นๆของลีโอนาโดดาวินชี เช่น Madonda ที่พูดถึงในหนังรหัสลับดาวินชี ภาพของอังตวน วัตโต ดาวิด ฯลฯ






4. Museum of art , Brisbane, 1997 เข้าไปดูเพราะมีเวลาที่บริสเบนแค่สองวันก่อนบินกลับเมืองไทย พยายามหาจุดรวม โชคดีที่ช่วงนั้นมีนิทรรศการภาพจากพิพิธภัณฑ์ดอร์เซย์ นำภาพอิมเพรสชั่นนิสต์ไปให้ชมหลายภาพ เป็นแรงบันดาลใจอย่างแรงสำหรับการตามไปดูภาพที่ดอร์เซย์ ปารีส

5. Rijkmeseum ที่ Amsterdam ได้ไปที่นี่สองครั้งเช่นเดียวกัน ครั้งแรกไปในปี 2000 อีก 13 ปีต่อมาในปี 2013 จึงได้ไปอีกครั้ง ชอบที่นี่มาก มีผลงานของศิลปินดัชต์ให้ดูอย่างจุใจ หลงรัก Rambrandt ก็ที่นี่ มีงานสวยๆเยอะ หลายยุคหลายสมัย ภาพที่ชอบที่สุดชื่อ โยเดีย เป็นภาพแผนที่กรุงศรีอยุธยาในสมัยที่ชาวดัชต์เรืองอำนาจอยู่ในคาบสมุทรมาลายา คนไทยถ้าไปที่นี่ควรหาโอกาสไปชมภาพ








6. National Gallery, Canberra, Australia ได้ไปหลายครั้งในช่วงปี 2002 และ 2003 มีงานน่าสนใจหลายชิ้น มีชิ้นที่ดังมากชิ้นหนึ่งเป็นงานของ Pollock ตอนไปดูไม่ได้ปลื้มเพราะไม่ชอบงานแอบสแตรค แต่เห็นใครๆก็ปลื้มกันทั้งนั้นเลย ชั้นบนทางเข้าห้องประชุมรัฐสภาที่แคนเบอราถึงกับมีภาพนี้เป็นพรมถักประดับผนังขนาดใหญ่ ในสวนก็มีงานของโรแดงอยู่หลายชิ้น น่าสนใจมาก และความที่ที่นี่อยู่ริมทะเลสาบ ไปชมแกลลอรี่แล้วเดินมานั่งเล่นริมทะเลสาบก็มีความสุขดีค่ะ  ยิ่งถ้าเป็นช่วงที่ cherry blossom บานจะสวยมาก

7. Da Nang Museum of Cham Sculpture , Danang, Vietnam, Dec 2010
เป็นพิพิธภัณฑ์ชนชาวจาม มีชิ้นงานสวยๆหลายชิ้น ที่นี่ไม่ใหญ่มาก แต่น่าสนใจ


8. Musée d'Orsay,Paris 2013 สุดยอดแห่งงานอิมเพรสชั่นนิสต์ต้องมาที่นี่ค่ะ จริงๆมีงานแบบอื่นอีกมาก แต่งานอิมเพรสชั่นนิสต์ชิ้นสวยๆดังๆอยู่ที่นี่แทบทั้งนั้น มีภาพหนึ่งเป็นภาพเด็กสาวสองคนนั่งเล่นเปียโน เป็นภาพที่ชอบมานานแล้ว เอาไปใส่กรอบวางในห้องอยู่หลายปี วันที่ไปที่นี่กะว่าจะต้องเจอ ปรากฏว่าไม่เจอ เสียใจ  แต่ในที่สุดก็ไปหาเจอที่พิพิธภัณฑ์โอแรงเจอรี่ ที่ดอร์เซย์ก็ห้ามถ่ายรูปค่ะ



9. Musée de l'Orangerie,Paris 2013 ใครชอบอิมเพรสชั่นนิสต์ ต้องไปที่นี่ล่ะ งานของโมเน่ต์งามมากๆ มีห้องรูปไข่ที่ใครๆต้องเข้าไปทำหน้าดื่มด่ำกับงานของโมเน่ต์ (ห้ามถ่ายรูปนะคะ  จะมีการ์ดมาคอยเดินดู) พิเศษเป็นส่วนตัวคือ ตามหาภาพสองสาวเล่นเปียโนของเรอนัวร์ ก็มาเจอที่นี่ ดีใจจริงเลย สนามหน้าทางเข้าพิพิธภัณฑ์มีรูปปั้น The Kiss ของโรแดงด้วยค่ะ


10. Rodin Museum,Paris 2013 เข้าไปเพราะอยากเห็น Thinker แต่พบว่ามีอะไรน่าสนใจอีกหลายอย่าง เห็น Gate of Hell  พอดีมาอ่านเรื่อง Inferno ทีหลัง ถ้าอ่านก่อนน่าจะเข้าใจดีกว่านี้ (Inferno ทั้งของ Dan Brown และของ Dante)  รูปปั้น The Thinker มาค้นข้อมูลทีหลังถึงทราบว่าโรแดงได้แรงบันดาลใจจาก Thinker ของไมเคิลเองเจโล ผู้ปั้น ลอเรนโซ เดอ เมดิซี(คนเดียวกับในหนัง Da Vinci's Demons) ในเครื่องแบบนักรบ  แต่โรแดงนำมาปั้นเป็นรูปเปลือย รูปนี้ถูกออกแบบให้มองโดยผู้ชมอยู่ด้านล่าง  มิน่าถึงใช้ปั้นให้หันหน้าลงมาและก็อยู่ซะสูงเชียว  ผลงานของโรแดงที่ต้องตามมาชมคือ The Kiss ค่ะ





เดินเล็งมุมอยู่พักนึงแล้วก็ได้ภาพนี้มาค่ะ ^_^

11. พิพิธภัณฑ์ในพระราชวังฟองเตนโบล France 2013
พระราชวังฟองเตลโบล อยู่ห่างจากปารีสไป 55กิโลเมตร อยากไปที่นี่มานานแล้ว คุ้นๆว่าสำคัญแต่จำไม่ได้ว่ามีอะไร ไปถึงได้เดินดูถึงได้รู้ว่านอกจากจะมีห้องต่างๆจัดแสดงให้ชมอย่างอลังการแล้ว ยังมีสิ่งที่คนไทยไม่ควรพลาดชมคือเครื่องราชบรรณาการที่รัชกาลที่สี่แต่งราชทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศสในสมัยพระเจ้านโปเลียนที่ 3 เมื่อปีพ.ศ. 2404 (ดูรายละเอียดพระราชสาส์นได้จากลิงก์นี้ http://heritage.mod.go.th/king/rama4/letter48.html ปกติเรามันจะจำว่าเมืองไทยได้มีการถวายเครื่องราชบรรณการให้กับฝรั่งเศสโดย คณะราชทูตไทยพระยาโกษาธิบดี(ปาน)เข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ที่พระราชวังแวร์ซาย ปี พ.ศ. 2229 ระยะเวลาห่างกันมาก ฝรั่งเศสช่วงนั้นได้ผ่านการปฏิวัติฝรั่งเศสในยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 จนมีพระเจ้านโปเลียน ผ่านการตั้งราชวงศ์กษัตริย์อีกครั้งจนมาถึงพระเจ้านโปเลียนที่ 3 แล้วหลังจากนั้นฝรั่งเศสผ่านยุตต่อๆมาจนปรับเปลี่ยนการปกครองเข้าสู่ระบบที่มีประธานาธิบดี)

(ถ้าจะอ่านเอาเนื้อหาเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ตามไปอ่านที่เรือนไทยค่ะ ละเอียดมาก http://www.reurnthai.com/index.php?PHPSESSID=1e49488d4c1dc0c8f4a72401465fff20&topic=3551.0%3Bwap2 )

ทีแรกดูไม่ออกว่าห้องนี้จัดแสดงเพราะประตูปิด จนอาจารย์น้องเพชรเปิดประตูเข้าไปถึงกับอึ้งเพราะมีพระราชยาน พระวอ มีมหามงกุฏ มีพระมหาสังข์ ฯลฯ. คนเฝ้าห้องเห็นเราทำท่าปลาบปลื้มออกนอกหน้าเขาก็ถามว่า Thailand หรือเปล่า ทำหน้าเข้าใจเรามากทีเดียว. ไปดูห้องนี้ห้องเดียว ดีใจกว่าที่ได้เดินทั่ววัง. ทั้งๆที่วังนี้มีการตกแต่งสวยงามมากๆ

ที่นี่มีสวนกว้าง ยังไม่มีไม้ดอก มีแต่สนามหญ้าเขียวกับต้นไม้ใหญ่ มีสระน้ำขนาดใหญ่ เป็นสวนที่น่าสบายอีกแห่ง

เราไปฟองเตนโบลด้วยรถไฟเที่ยว 10:15. แล้วกลับเที่ยว. 16:00 อาหารเที่ยงกินในร้านอาหารชั้นล่างของวัง. ที่นี่เราก็อึ้งอีกเช่นกัน เพราะเมื่อรอสั่งอาหารก็กวาดตามองไปรอบๆห้องอาหาร ที่ผนังด้านหนึ่งมีพระบรมรูปของรัชกาลที่สี่ติดอยู่. จริงดูแล้วแปลกๆ คือมีรูปท่านในวังเป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่คิดว่าจะมีในร้านอาหาร






12. Hansi Museum, Colmar,ฝรั่งเศส 2013
อานซีเป็นนักวาดรูป เราจะเห็นรูปเด็กผู้หญิงผูกโบว์ดำใหญ่ๆซึ่งเป็นชุดพื้้นเมืองของชาวอัลซาสที่อยู่ทางตะวันออกของฝรั่งเศสติดกับเยอรมัน พิพิธภัณฑ์นี้เป็นบ้านเล็กๆสามชั้นอยู่ที่หมู่บ้าน Riqwhir ที่เมือง Colmar ในฝรั่งเศส น่ารักมากมาย ใครชอบโปสการ์ดน่ารักๆรูปเด็กหญิงโบว์ดำ ต้องไม่พลาดที่นี่ค่ะ ค่าเข้ารู้สึกจะประมาณ 3 ยูโร





13. National Gallery, Washington DC September 2014
ที่นี่มีงานศิลป์สวยๆมากมาย เดินไม่หวาดไม่ไหว มีเวลาไม่พอ  ได้แต่ไปดูงานเขียนฝั่งยุโรป

สระบัวนี่่ ไปมิวเซียมไหนก็มีนะคะ  ของเขาฮิตจริงๆ






14. Museum of Art, Philadelphia
ที่นี่ก็ใหญ่มากๆ  ไปดูได้แค่ปีกเดียว  อยากมีเวลาซัก 3 วันที่นี่








พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์

ส่วนตัวชอบพิพิธภัณฑ์วิทย์เพราะได้ลองเล่นโน่นนี่ สนุกมาก และก็ได้ความรู้ไปด้วยในตัว

1. พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ประเทศไทย  เริ่มไปตั้งแต่อยู่ที่เอกมัย จนย้ายไปคลองหกก็ยังตามไปดู แรกๆตื่นเต้นมาก จนเมื่อได้ไปดูหลายๆแห่งแล้วรู้สึกว่าของเรายังสู้ของคนอื่นไม่ได้นะ T_T

2. Science Centre, Singapore ที่นี่เป็นศูนย์วิทยาศาสตร์ที่ดีมาก ได้ไปครั้งแรกเมื่อปี 1986 หลังจากนั้นก็ได้ไปเรื่อยๆยามที่ไปสิงคโปร์ ซึ่งก็ได้ไปเรื่อยๆเช่นกัน

3. Museum of Natural History, LA เป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาแรกๆที่ได้เข้าชม ตื่นตาตื่นใจมากกับพวกหินสวยๆก้อนใหญ่ๆ  การนำเสนอก็เป็นทั้งอุปกรณ์ แสงสี เด็กๆชอบกันมาก  ผู้ใหญ่ก็ชอบค่ะ บริเวณเดียวกับพิพิธภัณฑ์นั้นมีทั้งสนามกีฬาของ LA มีพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ เสียดายที่มีเวลาได้เข้าแค่พิพิธภัณฑ์เดียวค่ะ  หลังจากนั้นก็ไม่มีเพื่อนที่ชอบเข้าพิพิธภัณฑ์ ประกอบกับต้องขับรถเข้าเมืองไกล และ LA มีที่เที่ยวอื่นอีกมาก ก็เลยไม่ได้กลับมาอีก

4.  Museon, Den Haag, NL 2000 เป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ของเนเธอร์แลนด์  ถูกจับส่งเข้าไปเพราะไม่มีคนพาเที่ยว คนพาเที่ยวต้องไปทำงาน ไปทิ้งไว้แล้วมารับกลับ มีอะไรน่าสนใจมากมายสไตล์ดัชต์ค่ะ

5. Questagon, Canberra, Australia 2002-2003 เป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่สนุก ได้เล่นจริง ได้ความรู้เยอะ  อาจเพราะมาเล่นตอนโตก็เลยชอบเพราะรู้เรื่องแล้ว

6. Power house, Sydney, 2002-2003 เป็นที่เก็บงานนวัตกรรมของออสเตรเลียเลยค่ะ มีสิ่งประดิษฐ์ต่างๆมาก ดูแล้วภูมิใจแทนชาวออสเตรเลีย การนำเสนอก็ดี บรรยากาศประมาณอยู่ในโกดังยักษ์

7. Musée des Arts et Métiers ,Paris 2013 ในบรรดาพิพิธภัณฑ์ความก้าวหน้าในเชิงนวัตกรรมของมนุษย์ ปลาบปลื้มกับที่นี่เป็นที่สุด ได้เห็นเครื่องคำนวณแบบปาสกาลของจริงที่นี่เอง มีแท่งกระดูกของเนเปียร์ มีเครื่องทอผ้าของแจกการ์ด  มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ มีแลปของลาวัวร์ซิเยร์ แถมมีเพนดูลัมของฟูโกต์ตัวที่ใช้ทดลองจริง ทางเข้าก็มีรูปปั้นเทพีเสรีภาพหนึ่งในสี่ชิ้นที่มีในปารีสที่ตามหา(จริงด้านในยังมีอีกชิ้นนึงนะคะ  แต่เขาคงไม่ได้นับ)  ขนาดเดินอยู่เป็นนานก็เดินไม่หมด เพราะใช้เวลาดูนาน  แอร๊ยยย  เป็นลมดีกว่า








8. Cité des Sciences et de l'Industrie ,Paris 2013 เป็นศูนย์วิทยาศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปด้วย ใหญ่จริงๆ มีเฮลิคอปเตอร์อยู่ในอาคาร มีเรือดำน้ำอยู่นอกอาคาร แถมด้วยโดมขนาดยักษ์หน้าทางเข้า ถ่ายรูปบางมุมจะเห็นเหมือนเป็นลูกโป่งจากฟองสบู่ใสๆเพราะสะท้อนแสงข้างนอก  ชอบๆมากๆ

9. Smithsonian Air and Space Museum, Washington DC
พิพิธภัณฑ์ที่นี่ใหญ่โต น่าสนใจ มีทุกสิ่งที่เกี่ยวกับการบิน ตื่นเต้นมากๆที่ได้เห็นเครื่องบินลำแรกของวิลเบอร์และออลวิน ไรท์ อยากมีเวลาซักสองวันแทนที่จะเป็นสองชั่วโมงแบบนี้

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ/เมือง/สถานที่สำคัญ

1. พิพิธภัณฑ์แห่งชาติประเทศไทย ชอบนะ ชอบดูของไทยๆ แต่ร้อนไปนิด ไม่มีแอร์เลยสมัยที่ไปดู

2. National Museum of Singapore พิพิธภัณฑ์ไม่ใหญ่ แต่ก็น่าสนใจ จำไม่ได้ว่ามีอะไรที่ชอบเป็นพิเศษ แต่โดยรวมก็ชอบค่ะ

3. Wax museum, Hollywood, 1991-1992 ไปเดินเที่ยวถนนฮอลลีวู้ด ก็เลยแวะเข้าไปดู  กระทบไหล่ดารากันนิดนึง

4. Museum at Tower of London, UK, 1995 ที่นี่มีของงามๆที่ใช้ในราชวงศ์ เพชรโคอินีวร์ก็อยู่ที่นี่

5. Wax museum, London, 1995 พิพิธภัณธ์หุ่นขึ้ผึ้งของมาดามทูโซด์ ได้ยินชื่อมานาน ได้ไปดูหุ่นชี้ผึ้งที่ไหนก็ไม่ตื่นเต้นเท่าที่นี่ ทางเดินสุดท้ายจะมีรถไฟรางให้ขึ้นชมภาพเมืองลอนดอนที่ถูกไฟไหม้สมัยก่อนด้วย  เสียว่ารถเลื่อนเร็ว ตอนลงต้องรีบมาก คุณแม่เกือบลงไม่ทัน

6. พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกรุงไคโร ได้ไปเยี่ยมชมในปี 2007 ตื่นเต้นมาก ได้ไปเยือนแหล่งปิรามิดจริงๆ มีของอียิปต์ๆมากมาย ดูกันไม่หมด






7. Museum of Den Haag เป็นพิพิธภัณฑ์ที่กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ มีงานสวยๆหลายชิ้น รวมไปถึงงานของ MC Escher คนโปรดของฉันด้วย

8. National Museum of Australia ที่ Canberra ปี 2002 และ ปี 2003 เป็นอีกพิพิธภัณฑ์ที่ชอบมาก มีของให้ดูให้ลองเล่นหลายอย่าง เหตุผลอีกอย่างคือเข้าชมฟรี  ก็เลยเข้าชมหลายครั้งหน่อย ^_^

 9. National museum, Sydney, 2002-2003 เป็นพิพิธภัณฑ์อีกแห่งที่ชอบมาก มีระเบียงหนึ่งมีนกสตัฟต์เรียงรายไปรอบ คนดูนกชอบมากค่ะ  :) ที่นี่อยู่มุม Hyde Park เวลาไปต้องเดินผ่านสวน บรรยากาศดีมากๆ


ภาพรวมพิพิธภัณฑ์ต่างประเทศ

  1. Science center, Singapore, 1986 - 2007
  2. National museum, Singapore, 1986, 2017
  3. Wax museum, Hollywood, 1991
  4. Museum of Natural History, LA 1991 
  5. Museum of Fine Art, Boston, 1992 
  6. Contemporary museum, LA, 1992
  7. Museum at Tower of London, UK, 1995
  8. Wax museum, London, 1995 
  9. Museum of art , Brisbane, 1997
  10. Rijkmuseum, Netherlands, 2000, 2013
  11. Museon, Den Haag, 2000
  12. Den Haag museum, NL, 2000, 2016
  13. National museum, Canberra, 2002-2003
  14. National museum, Sydney, 2002-2003
  15. Power house, Sydney, 2002-2003
  16. Museum of Art, Canberra, 2002-2003
  17. Questacon, Canberra, 2002 - 2003
  18. Da Nang Museum of Cham Sculpture , Danang, Vietnam, Dec 2010
  19. Louvre Museum, Paris 2013
  20. Cité des Sciences et de l'Industrie ,Paris 2013
  21. Musée des Arts et Métiers ,Paris 2013
  22. Musée d'Orsay,Paris 2013
  23. Musée de l'Orangerie,Paris 2013
  24. Rodin Museum,Paris 2013
  25. พิพิธภัณฑ์ในพระราชวังฟองเตนโบล France 2013
  26. Hansi Museum, Colmar,ฝรั่งเศส 2013
  27. Smithsonian Air and Space Museum,USA 2014
  28. Smithsonian Natural History Museum 2014
  29. Museum of Art, Philadelphia 2014
  30. Barnes Foundation, Philadelphia 2014
  31. The Metropolitan Museum of Art, New York, 2014
  32. Mauristhuis, The Hague, The Netherlands, 2016
  33. Heilongjiang museum, Harbin, China, 2017
  34. Heritage museum, St. Petersburg, 2018
  35. Fukuoka museum of art, Japan, 2019

National Gallery
  1. National Gallery of Art, Washington DC 2014
  2. Oslo museum of art, Norway, 2018-----------------------------------------------------------------------------------
ขอรวมห้องสมุดไว้ตรงนี้ด้วย เพราะไปมาหลายที่เหลือเกิน

Library
  1. Library of Congress 2014
  2. Ralph J. Bunche Library Washington DC 2014
  3. American Philosophical Society Library, Philadelphia 2014
  4. Free Library, Philadelphia 2014
  5. Hagerty Library, Drexel University, Philadelphia 2014
  6. Stockholms Stadbibliotek, Sweden, 2018
พระราชวัง


  1. Palace of Versailles , 1995
  2. พระราชวังฤดูร้อน, จีน
  3. พระราชวังฟองเตนโบล
  4. Peterhof Palace, St.Petersburg, 2018

โบสถ์ด้วยค่ะ

  1. Notredame  cathedral, Paris, 2013
  2. L'Église de la Madeleine
  3. Saint-Sulpice
  4. Sacré-Coeur Basilica
  5. Sainte-Chapelle
  6. โบสถ์ที่วาลเวกท์
  7. Helsinki
  8. Helsinki
  9. St. Sophia, Harbin, 2017



Archive

  1. National Archive ,Canberra, Australia 2002-2003
  2. National Archive ,Washington DC USA 2014


มีพิพิธภัณฑ์ไหนที่อยากไป

นอกเหนือจากในลิสต์เดิมคือ  ฺBritish museum, Smithsonian ยังมี Hermitage ในรัสเซีย Tate museum, Acropolis Museum,The Vatican Museums,Uffizi Gallery อืมม์..... เยอะเนอะ
เมืองไทยก็มีพิพิธภัณฑ์เยอะค่ะ เดี่ยวจะทำเป็นโพสต์ต่างหากออกมา

-----------------------------------
หลังจากที่โพสต์ไปก็ได้เดินทางไปอเมริกาในปี 2014 ก็ได้ไปพิพิธภัณฑ์อีกมากเลยค่ะ รวมถึง Smithsonian ด้วย
ปี 2018 ก็ได้ไป Hermitage

Wednesday, March 12, 2014

Amelie ชอบทั้งหนังและเพลง

คงไม่พูดถึงหนังเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะเป็นอีกเรื่องที่ชอบมาก เดิมไม่ยอมดูเรื่องนี้มานานหลายปี รู้สึกไม่อยากดู  แต่ในปี 2013 จะไปเที่ยวปารีสก็เลยเอามาดูเสียหน่อย ปรากฏว่าชอบมากๆ  จนเมื่อไปถึงปารีสก็ไปตามรอยเอมิลีกันที่ย่านมองมาร์ต ไปกินกาแฟที่ร้านกาแฟที่เอมิลีทำงานด้วย เป็นร้านที่มีอยู่จริงๆ และที่ร้านก็แขวนรูปเอมิลีให้แฟนๆได้มาปลื้มกันด้วย

เอมิลี่เป็นหนังน่ารัก ที่แนะนำให้ดูนะคะ ดูแล้วอารมณ์ดี อยากทำเรื่องดีๆ และเพลงก็น่ารักมากๆค่ะ

Audrey Tautou นางเอกที่เล่นเป็นคนเดียวกับที่เล่นเรื่อง Da Vinci Code สองเรื่องนี้เล่นคาแรกเตอร์คนละขั้วกันเลยทีเดียว


เอมิลีนัดให้พระเอกไปเดินวนอยู่ย่านโบสถ์ Sacre Coeur มองจากลานโบสถ์จะเห็นวิวเมืองปารีสแบบนี้ค่ะ 


ในร้านกาแฟที่นางเอกทำงานในเรื่อง มีรูปเอมิลีมาติดจริงๆ ก็จะมีคนมากินกาแฟที่นี่เพื่อถ่ายรูปร้านนี้ พวกเราก็ด้วยค่ะ



มองจากข้างนอก ร้านแบบนี้เลยค่ะ ชื่อร้านกาแฟกังหันสองโรง Cafe des 2 moulins 

อยู่ไม่ไกลจากร้านมูแรงรูจอันโด่งดังด้วยค่ะ แค่เดินลงไปตามถนนทางซ้ายมือของรูป ไม่ใช่ซอยในรูปนะคะ เดินข้ามทางม้าลายนั่นไปก่อน ลงไปไม่นาน เจอทางแยก เป็นลานรถเมโทรด้วย มองไปทางขวาก็เจอมูแรงรูจแล้วค่ะ



Soundtrack ของหนังเรื่องนี้น่ารักมากๆ แต่งโดย Yann Tiersen ชอบดนตรีและบรรยากาศของเพลง  ปารีสมากๆ 

เนื้อเรื่องเอมิลีเดี๋ยวค่อยมาเล่านะ

==========================================

บางทีการนึกถึงอะไรนิดเดียวมันก็ต่อเนื่องกันไปได้ไกล อยู่ๆก็นึกถึงหนังเรื่อง Amelie ก็เลยเปิดเข้าไปคลิก Soundtrack ของหนัง แล้วก็เจอว่านางเอกเรื่องนี้ตัวจริงเป็นดาราดังของฝรั่งเศสชื่อ Audrey Tautou มีลิงก์เห็นว่าเธอเล่นโฆษณาเรื่องหนึ่งเมื่อปี 2011 เป็นโฆษณาของ Channel No.5 มีฉากบนรถไฟอารมณ์ Orient Express วิ่งจากปารีสไปอีสตันบูล(แต่ในโฆษณาเห็นเป็นรถไฟสาย Venice-Simplon Orient Express)

https://www.youtube.com/watch?v=LroD5882jx4

เป็นโฆษณาที่สวยมาก  ตามไปดู Behind the scene ก็น่าสนใจ https://www.youtube.com/watch?v=F7e_UErTP1g