Saturday, December 03, 2011

พล็อตซีรี่ส์ที่เริ่มคุ้นๆ

ช่วงนี้ดูซีรี่ส์ต่อเนื่องหลายชุด เพราะปกติไม่ได้ดู พอจะดูขึ้นมาก็ได้ดูหลาย seasons ดูไปดูมาก็จะเจอพล็อตคล้ายๆกันอย่างเห็นได้ชัด

ตอนนี้ดูเรื่อง 4400 มีทอมกับไดอาน่าเป็นเจ้าหน้าที่ NTAC คอยจัดการกับพวกที่ถูกพาตัวไปที่ไหนซักแห่งแล้วนำกลับมาโดยมีความสามารถพิเศษติดตัว กลุ่ม 4400 จะมีความสามารถคล้ายๆกับ character ในเรื่อง Hero อย่างอิซาเบลใน 4400 ก็จะคล้ายแคลร์ใน Hero เป็นพวก unbreakable /heal ตัวเองได้เหมือนกัน  

ใน 4400 season 2 มีตอนหนึ่งทอมจะได้เข้าไปในโลกเสมือนที่เกิดจากการสร้างสภาพแวดล้อมปลอมของอลาน่า แนวนี้ก็คล้ายแนวโลกคู่ขนานใน Fringe season 3 (ใน Fringe มีโอลิเวีย กับ ปีเตอร์ เป็น FBI agent ที่อยู่แผนก Fringe)

4400 season 3 ก็มีคนที่สามารถแปลงร่างเป็นคนอื่นได้ เหมือน shape shifter ใน Fringe ที่คนของโลกคู่ขนานเปลี่ยนร่างได้ แต่กรณีนั้นต้องมีอุปกรณ์ต่อเชื่อม

ซีรี่ส์ที่ติดตามอีกเรื่องคือ Fringe เป็นเรื่องของจักรวาลคู่ขนาน นางเอกโอลิเวีย เป็น FBI ที่ต้องใช้ความสามารถของพ่อพระเอกซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เคยทำการทดลองหาความพิเศษของเด็ก ซึ่งนางเอกก็เป็นหนึ่งในเด็กทดลองนั้น พระเอกก็มาจากจักรวาลอื่นตั้งแต่เด็กเพราะพ่อพระเอกไปเอาตัวมาแทนลูกชายแท้ๆที่เสียชีวิตไป  เรื่องนี้เพลงจิงเกิ้ลเพราะดี การใช้โทนสีของซีนเปลี่ยนเรื่องจะบอกว่าขณะนั้นเป็นเรื่องของจักรวาลใด เช่นเป็นซีนเปลี่ยนเรื่องโทนสีเขียว สีแดง สีเหลือง เป็นต้น

Fringe season 4 episode สุดท้ายเริ่มมาแปลก

อุปกรณ์ต่างๆเริ่มคุ้นๆ เช่น Tablet
มีการพูดถึงความถี่ของแต่ละเแกภพ เช่น เอกภพของเราใช้ความถี่คีย์ G ในขณะที่เอกเอกภพหนึ่งใช้คีย์ C

ในปี 2015 พวก observer ยึดครองเอกภพ มนุษย์กลายเป็น native นึกถึงเรื่อง Terminator ขึ้นมาเลย
ทีม fringe ก็ถูก amber ไว้ เหมือนยีนในเรื่อง Jurassic Park

ใน Episode 20 world apart ก็มีไอเดียคล้ายๆเรือของโนอาห์ด้วย ซีรี่ส์เรื่องนี้ช่างหลากหลายจริงๆ


เรื่องที่ชอบคือ  Fringe/4400/Hero/NCIS/Castle

20 กรกฎาคม 2555
ช่วงนี้ดูซีรี่ส์เรื่อง Torchwood เรื่องประหลาดดี เป็นกลุ่มผู้คอยตามล่ามนุษย์ต่าวดาว มีอุปกรณ์แปลกๆเยอะ เรื่องราวแต่ละตอนก็สนุกดี ออกแนวโหดนิดๅ ชอบที่เป็นซีรี่ส์อังกฤษ ได้ฟังเสียงอังกฤษบ้าง พระเอกหน้าตาดีมากๆ เล่นละครเวทีเรื่อง Phantom of the opera เป็น Raoul ด้วย

9 กันยายน 2555
เพิ่งดูซีรี่ส์ Grimm จบ season 1 และได้ดู season 2 แค่สองตอน ไม่มีให้ดูต่อแล้ว T_T ชอบเรื่องนี้มาก พระเอกเป็นเชื้อสายกริมม์ และเป็นตำรวจ ได้ทำคดีที่มีสัตว์ประหลาดแปลกๆ สนุกดี
พอดูเรื่องนี้ก็เลยไปค้นเรื่องกริมม์มาอ่าน ไม่เคยรู้เลยว่ากริมม์เป็นเยอรมัน

กันยายน 2556

ช่วงนี้ดูซีรี่ส์เรื่อง Da vinci's demons จบไปหนึ่งซีซั่น เมื่อคืนก็เพิ่งย้อนกลับไปดูเรื่อง Numbers ดูแล้วรู้สึกหนังเก่าจังเลย  555 ก็มันนานแล้วนี่นา...


ที่เพิ่งดูจบทั้งสาม seasons ไปคือ Downton Abbey ชอบเรื่องนั้นมากมาย ทั้งพล็อตเรื่อง ทั้งฉาก ทั้งดาราและภาษาที่พูด  อังกฤษอะไรขนาดนั้น กำลังรอดูซีซั่น 4 แต่เป็นซีซั่นที่ทอมตาย เศร้าเลย


ก่อนหน้านั้นหลายเดือนก่อน ก็ติด Pretty Little Liars ตามดูสาม seasons เหมือนกัน ติดมาก  ชอบเพลงของเรื่องด้วย นางเอกก็น่ารักทั้ง 4 คนเลย

ในช่อง Fox ที่ยังดูต่อเนื่องก็เรื่อง NCIS/Castle

22/9/2556 วันนี้ดูซีรี่ส์  Orphan Black นางเอกชื่อซาร่าห์ พบว่าตัวเองเป็นมนุษย์โคลนที่มีคนแบบเธออีกหลายคนทั่วโลก สนุกดีเหมือนกัน  ดูจบ Season 1 ทั้ง 10 episodes

18 ตุลาคม 2556
วันนี้ดู Atlantis ถึง Season 1 Episode 3  มากกว่านั้นก็ยังไม่มีให้ดู  ในเรื่องพระเอกชื่อเจสัน ลงสำรวจใต้ทะเลเพื่อหาเงื่อนงำเกี่ยวกับพ่อแล้วก็วาร์ปไปสู่แอตแลนติส สมัยโบราณ เจอทั้งไพธากอรัสกับเฮอร์คิวลิส(ในสภาพมนุษย์ปกติ) และกลายเป็นทีมกัน

The Newsroom Season 1 เรื่องนี้สนุกมาก พระเอกชื่อ วิล แมคคาวอย เป็น TV anchor นางเอกเป็น executive producer ที่เคยคบกันมาก่อน ฉากเป็นรายการ News night 2.0 ที่คนในทีมพยายามสร้างสรรค์งานดีๆให้สมกับการเป็นคนทีวี ได้รู้เรื่องอะไรๆที่เป็นอเมริกันหลายอย่างจากเรื่องนี้  และเรื่องนี้เพิ่งจบ season 2 ไป แต่ยังไม่มีให้ดูเหมือนกัน :(

19 ตุลาคม 2556
หลังจากดู The Newsroom มาตลอดวันจนสี่โมงเย็น  ตอนค่ำก็เริ่มดู Sherlock Holms หนังของ BBC สนุกมากเหมือนกัน ทั้งๆที่อ่านหนังสือมาเยอะแล้ว ชอบหน้าตาคนที่เล่นเป็น Holms มาก

เพิ่งค้นเรื่องของโฮมส์ ก็เลยเทียบเคียงได้ว่าหนังสือเรื่องแรกที่เขาเขียนชื่อ A Study in Scarlet พอมาเป็นซีรี่ส์ใช้ชื่อว่า A study in Pink ฉากก็เป็น London ปี 2010 ไม่ใช่ 1817 เหมือนเมื่อก่อน

5 เมษายน 2557  เมื่อวานเพิ่งดู Sherlock จบ season 3 ตอนจบโมริอาตี้กลับมาอีกครั้ง อ๊ากส์

4 กันยายน 2557 มาเริ่มดู Davinci's demon season 2 ต่อจากภาคแรกที่จบตอนตระกูลพาสชี่ยึดเมืองฟลอเรนซ์ ตอนนี้ดาวินชี่ช่วยลอเรนโซออกมาและพยายามรักษาโดยการถ่ายเลือด

7 กันยายน 2557 ดู  Davinci's demon season 2 จบ 10 episodes season นี้เป็นเรื่องที่ลีโอนาโดไปหา book of leaves ที่เมืองอินคา  ไปมาชูปิกชูด้วย   และตอนจบค้างชนิดที่ต้องมี season 3 แน่ๆ เพราะเป็นตอนที่กองทัพเรือออตโตมันจะเข้ามายึดเนเปิล โดยผู้หญิงนักพยากรณ์ที่ติดมากับเรือนั้นคือแม่ของลีโอนาโด  ^_^


15 พฤศจิกายน 2557

ดู Fringe season 5 จำ season เก่าไม่ค่อยได้แล้ว นานมาก
                   season นี้ ปีเตอร์และวอลเตอร์ เจอเอ็ตต้า ลูกสาวของโอลิเวียและปีเตอร์ ในปี 2036 หลังจากที่ต้องอยู่ในอำพันมา 21 ปี เอ็ตต้าเป็นกลุ่มผู้ต่อต้าน เจอกันแล้วก็ไปตามหาโอลิเวียที่เก็บตัวเองในอำพันมา 21 ปี ตั้งแต่ช่วงที่ไปเอาอุปกรณ์รวมความคิดของวอลเตอร์ หลังจากนั้นวอลเตอร์ถูกจับตัวได้และลบความจำช่วงที่มีแผนล้มล้างผู้รุกราน ก็เลยต้องตามกลับไปหาต้นตอ ไปที่แล็ปมหาวิทยาลัยฮาร์วาด ได้วิดิโอที่ชี้ทางให้ไปที่ต่างๆ เช่นไปเพนซิลเวเนียเพือไปเอาผลึกควอทซ์ในเหมืองทองเก่า หลังจากนั้นก็ไปหาข้อมูลที่สถานี นิวอาร์คเพน ได้มายังไม่ทันอ่านรู้เรื่อง เอ๊ตต้าก็โดนจับตัวและตายในที่สุด โอลิเวียร์ก็ต้องสู้ต่อไป ทรหดมากจริงๆ นี่แค่ 5 episode แรกของ season นี้นะ
ใน episode 7 มีเครื่องระเหิดสสารให้กลายเป็นไอ เหมาะสำหรับการกวาดล้างของที่ไม่ต้องการมาก  :)
นีน่า ชาร์ป ก็มาตายเอา episode 9 นี่เอง
episode ตั้งแต่ 9 เป็นต้นไปก็จะมีน้องนักสังเกตการณ์เด็ก "ไมเคิล" ที่มีทั้งสติปัญญาและอารมณ์ จะต้องถูกส่งตัวไปในปี 2167 ปีที่เริ่มวิวัฒนาการกลุ่มนักสังเกตการณ์ขึ้นมา เพื่อให้นักวิทยาศาสตร์คนที่คิดเรื่องนี้เปลี่ยนใจว่าการสร้างเผ่าพันธ์ุมนุษย์ที่ฉลาดไม่จำเป็นต้องทิ้งอารมณ์
ในที่สุดก็จบ season และ complete series นะ


พฤษภาคม 2558

ดูซีรี่ส์ The Silicon Valley เป็นซีรี่ส์เกี่ยวกับ Programmer พระเอกคือ Richard Hendricks สามารถเขียน Compression algorithm ได้ใหม่ มีประสิทธิภาพสูง ทีแรกตัวเองก็ไม่รู้ว่ามันมีผลกระทบแค่ไหน คิดว่าจะทำแอพเพื่อส่งไฟล์เพลงให้รวดเร็วเท่านั้น แต่ได้พบกับนักลงทุนที่รู้คุณค่าของอัลกอริทึมนี้ (Gavin Belson ) จึงมีการซื้อผลงานด้วยราคา 10 ล้านเหรียญ พระเอกไม่รับเงิน แต่ไปร่วมมือกับนักลงทุนอีกคนที่ให้เงินมาตั้งต้นสองแสนเหรียญและต้องการหุ้นอีกห้าเปอร์เซ็นต์ (Peter Gregory)  แต่จะช่วยให้เขาตั้งบริษัทชื่อว่า Pied Piper นางเอกเรื่องนี้ชื่อ Monica เป็นเลขาของเกรกเกอรี่  

ดูเรื่องนี้แล้วรู้เลยว่าแค่เขียนโค้ดเป็นไม่พอ ต้องรู้จักการวางแผนธุรกิจ การดูความคุ้มค่าทางการเงิน การดำเนินธุรกิจต่างๆ เรื่องนี้นักศึกษาที่เรียนสายไอทีควรดู

Season แรกมีแค่ 8 episodes จบที่ทีมพระเอกไปชนะการแข่งขันโปรแกรมในงานที่จัดเพื่อให้ผู้ลงทุนมา match กับ developer

นอกจากเรื่องนี้ก็เอาเรื่อง The Big Bang Theory มาดูตั้งแต่ Season แรกใหม่ เพิ่งดูได้ซีซั่นเดียว


มิถุนายน 2558
ดูเรื่อง CSI:Cyber ได้รับคำแนะนำมาจาก อ.สลิล ในเว็บมีให้ดูแค่ 6 episodes ดูจบแล้ว เป็นเรื่องของ CSI แผนก Cyber ที่วอชิงตันดีซี นางเอกเป็นนักจิตวิทยาพฤติกรรมที่เคยถูกแฮกไฟล์คนไข้ ทำให้มีคนไข้คนหนึ่งฆ่าตัวตาย นางเอกเข้ามาร่วมทีมนี้เพื่อหาทางยับนั้ง Black hacker และพยายามหาคนที่เคยแฮกข้อมูลของเธอ ทีมงานมีจนท.หน่วยลุยซึ่งหน้าตาดีมาก เคยเป็น USMC  คนอื่นๆก็มีแฮกเกอร์เก่าที่ถูกนำมาเข้าในโครงการ มีครูมิช ราเวน และเนลสัน ทั้งหมดจะมีหัวหน้าหน่วยคอยดูแลอีกคนหนึ่ง

เป็นซีรี่ส์ที่สนุกสนาน  นางเอกเรื่องนี้เป็นคนเดียวกับที่เล่นเรื่อง Medium และ Boyhood

26 มีนาคม 2559 กำลังจะเริ่มดู Davinci's Demons season 3 ต่อ รอมานานเหลือเกินกว่าจะได้ดู

ก่อนหน้านี้ดูซีรี่ส์อีกหลายเรื่องเลยที่ไม่ได้บันทึกไว้ เช่นเรื่อง Mr. Robot เป็นเรื่องของหนุ่มวิศวคอมผู้สามารถแฮกอะไรก็ได้ และต้องเจอกับเรื่องราวมากมาย  มากจนจำเรื่องไม่ได้แล้ว 555

ดูซีรี่ส์ญี่ปุ่นชื่อ Tokyo Airport เป็นเรื่องของนางเอกผู้เปลี่ยนงานจากพนักงานภาคพื้นดินของท่าอากาศยานฮาเนดะมาเป็นผู้ควบคุมการบิน  เนื่อเรื่องจึงเป็นเหตุการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งในเรื่องวิกฤตการบิน  เรื่องส่วนตัวกับพระเอกผู้อยากเป็นนักบิน แต่เเกิดอุบัติเหตุจนเดินไม่ได้


28 มิถุนายน 2560
มาบันทึกว่ากลับมาดู Silicon Valley ต่อจนจบ season 4 ep 7 แล้ว
และจบ ep 10 วันที่ 12 สิงหาคม 2560 เรื่องจบตอนที่พายไพเพอร์พยายามแก้ปัญหาการหาพื้นที่เก็บข้อมูลให้ลูกค้าโดยใส่มัลแวร์ลงในเครื่องของฮูลิโฟน แต่เนื่องจากเครื่องฮูลิโฟนเกิด overloadละมีการระเบิด แจ็ค บาร์คเกอร์ จึงติดต่อไปที่จีนเพื่อให้ผลิตเครื่องใหม่ทดแทนและจะดึงเครื่องเก่ากลับทั้งหมดประมาณเก้าล้านเครื่อง(อารมณ์เดียวกับซัมซุงโน้ต 7 เลยนะ) ริชาร์ดพยายามย้ายข้อมูลลูกค้าไปที่ต่างๆโดยวิธีที่ไม่ถูกต้องเท่าไร เช่นเอาเข้า server แอนทอน แต่ก็ไม่พอ จนจะเอาไปใส่ในมหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ดที่บิ๊กเฮดสอนอยู่ แต่เพื่อนร่วมทีมก็ไม่เอาด้วยจนในที่สุดไม่มี server จะเก็บข้อมูลและข้อมูลหายทั้งหมด แต่ในที่สุดจาเร็ดก็เห็นใจและยอมกลับมาช่วย เพื่อนร่วมทีมก็กลับมา ในความหมดหวัง เมื่อทีมนี้เข้าไปพบลูกค้า ปรากฎว่าระบบทำงานได้ดี ไม่มีการล่ม  เพราะโปรแกรมที่ทีมนี้ใส่เข้าไปในแอนทอน  เมื่อแอนทอนจะล่มก็ทำการแบ็คอัพข้อมูล มันทำให้ตู้เย็นอัจฉริยะทั้งหลายที่เคยลงโปรแกรมของจินหยางคิดว่าเป็นโปรแกรมอัพเดตก็เลยอัพเดตตัวเองและรับข้อมูลเข้าไปเก็บเป็นการกระจายที่เก็บได้มาก สุดท้านเกวินกลับมายื่นข้อเสนอให้ริชาร์ดอีกครั้ง แต่ริชาร์ดไม่ตกลง ....เหมือนจะมี season ต่อไปนะ





Sunday, November 13, 2011


วันนี้อ่านหนังสือเรื่อง รหัสลับหลังคาโลก ตอนยืมมาอ่านคิดว่าเป็นเรื่องแนวรหัสลับดาวินชี หรือรหัสลับอื่นๆที่ออกมาเป็นกระแส เปิดอ่านหน้าแรกแล้วถึงรู้ว่าที่หยิบมานี้เป็นเล่ม 3 มีทั้งหมดกี่เล่มก็ไม่รู้ ก็ยังคิดในแง่ดีต่อว่าแต่ละเล่มจะมีเนื้อหาสมบูรณ์ เพียงแต่มีตัวละครเดิม อ่านแล้วถึงรู้เพิ่มมาอีกว่าไม่ใช่ ... เรื่องมันต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ไหนๆก็อ่านแล้ว อ่านจนจบแล้วกัน สรุปว่าเป็นหนังสือชุดของจีน นักเขียนชื่อ เหอหม่า ซึ่งมีประสบการณ์อยู่ในทิเบตเป็นสิบปี และมีความรู้เกี่ยวกับทิเบตอย่างลึกซึ้ง
อ่านไปอ่านมาเกิดความรู้สึกว่า นี่มันเพชรพระอุมาภาคทิเบตนี่นา (แต่ความจริงเพชรพระอุมาก็ประมาณขุมทรัพย์โซโลมอนภาคไทย) จาก รพินทร์ ไพรวัลย์ ก็กลายเป็น จัวมู่เฉียงปา รพินทร์ในภาคแรก รับจ้างเข้าป่าไปตามหาพี่ชายนางเอก แต่จัวมู่เฉียงปาเป็นเจ้าของบริษัทฝึกสุนัข ที่ออกไปตามหาสุนัขพิเศษที่หายากมากพันธุ์ทิเบตัน มัสทิฟฟ์ สิ่งที่เหมือนกันคือแนวเรื่องที่ทั้งสองเรื่องมีหญิงสาวร่วมการเดินทาง มีเรื่องความรักโรแมนติกท่ามกลางการผจญภัยเหนือจินตนาการ
ส่วนตัวต้องบอกว่าชอบเรื่องนี้มาก ได้รู้เรื่องทิเบตมากขึ้น รู้เรื่องศาสนา อารยธรรมต่างๆมากขึ้น แถมยังต้องลุ้นพระเอกเสียทุกตอน อ่านจบด้วยความเสียดาย เพราะไม่มีเล่มต่อมาอ่าน ต้องรอวันจันทร์ค่อยไปศูนย์บรรณฯ J ข่าวว่าตอนนี้ออกมา 6 เล่มแล้ว ทั้งชุดจะมี 10 เล่ม แต่เห็น version ภาษาจีนเขาบอกว่ามี 8 เล่ม ใครชอบเพชรพระอุมาคิดว่าน่าจะชอบเรื่องนี้ค่ะ

15 มกราคม 2556

มา Update ว่าในที่สุดก็อ่านจบครบ 11 เล่มแล้ว สนุกสนานสมกับที่รอคอยจริงๆ โดยเฉพาะเล่มสุดท้าย บรรยายภาพวิหารและทรัพย์สมบัติต่างๆได้หลุดโลกมาก  แต่จริงๆดูจากตอนจบ ถ้าเขาจะทำภาคต่อก็น่าจะมีพล็อตต่อไปสบายๆเลยทีเดียว 

Friday, October 07, 2011

น้ำท่วมใหญ่ภาคกลางและภาคเหนือ กันยายน-ตุลาคม 2554

7 ตุลาคม 2554

ช่วงเดือนที่ผ่านมากมีข่าวน้ำท่วมใหญ่ทั่วภาคกลางและภาคเหนือ รุนแรงขนาดน้ำท่วมลึกเป็นเมตร บ้านเรือนอยู่ใต้น้ำไปหนึ่งชั้น ไร่นาเสียหายจากน้ำท่วมขังเป็นเดือน เป็นวิกฤตการณ์ที่น่ากลัวมาก คันกั้่นน้ำบางโฉมศรีแตก น้ำทะลักลงใต้เขื่อนจำนวนมาก ดูจากทีวีจะเห็นน้ำไหลเชี่ยวไปตามซอยหมู่บ้าน น่ากลัวมาก

วัดไชยวัฒนาราม ที่อยุธยาก็เพิ่งถูกน้ำท่วมไปสองสามวันมานี้ คันกั้นน้ำเอาไม่อยู่ แม้แต่กรุงเทพเขตรอบนอก วันนี้ก็ได้ข่าวน้ำท่วมถนนหลายจุด

30 ตุลาคม 2554

ช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาข่าวน้ำท่วมกรุงเทพเป็นเรื่องใหญ่ เพราะคิดง่ายๆว่าแม้แต่ในกรุงเทพก็ไม่สามารถป้องกันได้ แล้วในกรุงเทพเป็นเขตเศรษฐกิจ เขตทำงาน เขตรวมพลที่จะไปช่วยที่อื่น ถ้ากรุงเทพชั้นในน้ำท่วม ส่วนตัวคิดว่ารัฐบาลทำได้แย่มาก ศอภ. ทำงานไม่เป็น และเป็นที่พึ่งไม่ได้

เดิมเมื่อน้ำจะลงมาจากอยุธยาก็จะลงมาที่แถวปทุมธานี ซึ่งก็ท่วมนิคมอุตสาหกรรมมาอย่างต่อเนื่อง 7 แห่ง ไม่เว้นแม้แต่นวนคร น้ำท่วมสูง 1-2 เมตร จากนั้นมีการให้ข้อมูลว่าจะกั้นน้ำให้ไปทางตะวันออกของกรุงเทพ แถบลากกระบัง คลองสามวา หนองจอก แต่ไปๆมาๆกลับเป็นว่าน้ำท่วมไปทางตะวันตกเสียมาก แม้แต่ในสนามบินดอนเมือง น้ำยังท่วมเข้า runway ทั้งๆที่ศูนย์ ศอภ. ก็ตั้งอยู่ที่นั่นและเป็นศูนย์พักพิงด้วย ทางฝั่งธนโดนหนักแถบจรัญสนิทวงศ์ซอย 80-90 กว่าๆ ประชาชนอพยพกันชุลมุน เห็นรูปน้ำท่วมอุโมงค์แยกบางพลัดแล้วตกใจไม่คิดว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้ http://www.pantip.com/cafe/news/topic/NE11258601/NE11258601.html


เมืองเอกน้ำท่วมสูง 2-3 เมตร มหาวิทยาลัยรังสิตจมน้ำ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กรุงเทพ จมไปก่อนหน้านั้นแล้ว มูลค่าความเสียหายเป็นพันล้าน

อาหารแพงขึ้น น้ำดื่มหายากและราคาสูง มาม่าอาารแห้งถูกซื้อไปเก็บตุนจนขาดตลาด

รัฐบาลประกาศวันหยุด 27-31 ตุลคม 2554 ในเขตกรุงเทพและอีก 20 จังหวัดที่ประสบภัย ผู้คนที่อพยพก็จะไปทางชลบุรี โคราช ปราจีนบุรี จังหวัดที่น้ำไม่ท่วมทั้งหลาย

บ้านอยู่ที่ซอยอินทามระ 51 ยังคงไม่มีน้ำท่วม แต่เพื่อความไม่ประมาทก็ขนรถไปฝากไว้ที่ปราจีนบุรี เก็บของในบ้านขึ้นชั้นสอง

ภาคใต้ นครศรีธรรมราช ฝนเริ่มตกตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม และตกต่อเนื่องทุกวันแทบจะไม่ได้เห็นแสงแดด สองวันนี้เพิ่งมีแดดช่วงเช้าเล็กน้อย แล้วก็ฝนตกต่อเนื่องทั้งวัน ยังไม่มีน้ำท่วมขัง น้ำดื่มในห้างหาไม่ได้ต้องไปซื้อจากร้านเล็ก แต่ชีวิตโดยรวมยังไม่ลำบากอะไร

สิงหาคม 2554 นายกหญิงคนแรกของไทย

มาบันทึกว่ามีเหตุการณ์ในเมืองไทยที่มีการเลือกตั้งและได้พรรคเพื่อไทยเป็นเสียงข้างมาก จนในที่สุดเมืองไทยก็มีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ นายกฯที่เข้ามาสู่วงการเมืองไม่ถึงสองเดือนก็สามารถเป็นนายกฯได้
เห็นแล้วไม่ไหวจะเคลียร์!

วันที่ 3 กรกฎาคม 2554 เป็นวันเลือกตั้ง และวันที่ 5 สิงหาคม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ของประเทศไทย และถือเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย

ไม่คิดว่าผู้หญิงยุคนี้ยังจะเป็นหุ่นให้ใครชักใยอยู่อีก.... :(

===============================================

21 กุมภาพันธ์ 2557 เวลาผ่านไป 2 ปีเศษต้องกลับมาบันทึกว่านายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทยทำความเสียหายให้กับประเทศไทยมากมายเหลือเกิน ปัญหาที่ร้ายแรงที่สุดในตอนนี้คือเรื่องโครงการรับจำนำข้าว

แต่ขอบันทึกหลักฐานทั้งหลายที่เธอทำความอับอายให้ประเทศไว้ในที่นี่ เดี๋ยวจะค่อยๆเข้ามาอัพเดทค่ะ

- 16/11/2011 ในการต้อนรับฮิลลารี คลินตัน นายกรัฐมนตรีของไทยเริ่มการต้อนรับโดยการพูดว่า

"Let me begin by OVERCOME Secretary Clinton to Thailand once again" 

จะทราบไหมคะว่า overcome กับ welcome ความหมายต่างกันคนละขั้ว  แทนที่จะต้อนรับกลายเป็น

พิชิตฮิลลารีไปเสียนี่

http://www.youtube.com/watch?v=tJpKaAv-anA


Friday, August 26, 2011

สาส์นสมเด็จ

สาส์นสมเด็จเป็นหนังสือที่ได้ยินชื่อมานาน บางทีเปิดหนังสือบางเล่มก็อ้างถึงเรื่องนี้ จนในที่สุดได้หนังสือเล่มนี้มาเก็บไว้ ได้อ่านหลายรอบ รู้สึกว่าได้ประโยชน์ในเชิงความรู้ประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวิธีคิดของปราชญ์ยุคนั้น กรมพระยาดำรงฯ และกรมพระยานริศฯ เป็นแบบอย่างของปราชญ์ที่อยากตามรอยตลอดมา


บันทึกความรู้

ตอนที่ได้หนังสือชุดนี้ จำได้ว่าไปเดินที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า เดินดูแผงหนังสือเก่า จับๆหนังสือชุดนี้ คนขายก็มาบอกว่าหนังสือชุดนี้ดี ราคาที่ขายก็ถูกมาก ซื้อได้ในราคาเล่มละ 250 บาท สองเล่มก็ห้าร้อยบาท หลังจากซื้อได้เอามาอ่านหลายครั้ง เป็นหนังสือดีที่ดีใจที่ได้ซื้อเก็บไว้

หนังสือชุดนี้มีสองเล่ม เป็นบันทึกจดหมายถามตอบในเรื่องราวน่ารู้มากมาย โดยผู้รู้ที่ตอบจดหมายให้คือกรมพระยานราธิปประพันธ์พงศ์ ผู้รับบันทึกตอบคือพระยาอนุมานราชธน

มีความรู้หลากหลายในหนังสือเล่มนี้ แนวการเขียนถามตอบให้นึกถึงหนังสือสาส์นสมเด็จ

แรงบันดาลใจจากกรมพระยาดำรงราชานุภาพ

เที่ยวเมืองพม่า
นิราศนครวัด
ความทรงจำ
สาส์นสมเด็จ
นิทานโบราณคดี

อยากบันทึกไว้ว่ากรมพระยาดำรงฯเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ ความคิดที่ยึดถือเรื่องความยุติธรรมถูกต้อง และอาจรวมไปถึงความคิดที่เรียกว่านิยมเจ้าของฉัน

สิ่งแรกที่นับถือคือการให้ความรู้อย่างละเอียดในเรื่องต่างๆทั้งในเรื่องประวัติศาสตร์ ความรู้เรื่องขนบธรรมเนียมประเพณีทั้งไทยและเทศ หนังสือหลายต่อหลายเล่้มที่ได้อ่านได้สร้างฐานความรู้ที่มั่นคงให้ฉัน ไม่ว่าจะเคยได้ยินผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับข้อมูลและแนวความคิดของท่านบ้าง ฉันคิดว่าความรู้และข้อเท็จจริงที่ท่านบันทึกเป็นแหล่งปฐมภูมิและยากที่จะมีใครที่ใกล้ชิดข้อมูลขนาดนั้นมาเล่าให้คนทั่วไปได้รับทราบ


หนังสือชุดทางรัก สายสัมพันธ์ของโรสลาเรน




หนังสือชุดนี้เป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้อยากเดินทางไปเที่ยวเยอรมัน อยากเขียนจดหมายถึงแม่ ทำให้ชีวิตหลังเรียนจบมีสีสันด้วยการทำตามฝันเหมือนในหนังสือ ถึงแม้จะใช้เวลานานกว่าจะได้พาแม่ไปเยอรมันได้อย่างที่ฝัน แต่ในที่สุดก็ได้ทำตามความฝัน ส่วนการเขียนจดหมายหาแม่กลายเป็นนิสัยที่จะเขียนโปสการ์ดหาแม่ทุกวันที่เดินทางไปต่างประเทศ

พล็อตเรื่องง่ายๆคือนางเอกชื่อศุลีพร ไปเยี่ยมพี่ชายที่เรียนอยู่ที่เยอรมัน พี่ชายมีเพื่อนคนหนึ่งชื่อคุณนอง(ชยานนท์) นางเอกก็ได้อาศัยพระเอกพาเที่ยวยุโรป โดยในภาคแรก(ทางรัก)เป็นการท่องเที่ยวด้วยรถยนต์กันสามคนรวมพี่นางเอกด้วย ในภาคหลัง(สายสัมพันธ์) นางเอกได้ข่าวว่าพระเอกมีอุบัติเหตุ ก็ไปหาที่เยอรมัน พระเอกไม่ได้เป็นอะไรมาก ก็เลยได้พาเที่ยวกันอีกรอบ

เรื่องนี้เขียนโดยให้นางเอกเป็นผู้เขียนจดหมายหาแม่ เล่าเรื่องการท่องเที่ยวให้ฟัง รวมถึงเรื่องน่ารักๆที่เกิดขึ้นด้วย แต่คุณโรสลาเรนก็ทำให้จดหมายนั้นน่าติดตามด้วยเรื่องโรแมนติกของคุณนองกับศุลี  ทำให้น่าสนใจโดยการแทรกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยลงไป บทกลอน หรือ คำดีๆหลายบทในหนังสือเล่มนี้เมื่อได้มาอ่านพบในหนังสืออื่นๆก็ทำให้จดจำได้และรู้สึกดี ที่ดีมากๆคือเหมือนอ่านสารคดีท่องเที่ยวเลยทีเดียว แต่เป็นฉบับโรแมนติก

ได้อ่านหนังสือชุดนี้ประมาณช่วง ม.ต้น และทำให้ตั้งใจไว้ว่าโตขึ้นจะไปเยอรมัน ไปสัญญากับแม่ไว้ด้วยว่าจะพาแม่ไปเที่ยว ได้ทำตามความฝันในการพาแม่ไปทัวร์ยุโรปเมื่อปี 1995  ส่วนทริปโรแมนติกในยุโรปที่ขับรถเที่ยวกับคุณนองในเมืองน่ารักๆนั้น ได้มาทำตามฝันกันในปี 2000 ,2013 และ 2016 คุณนองตัวจริงน่ารักไม่แพ้ในหนังสือค่ะ














หนังสือชุดนี้ก็เป็นแรงบันดาลใจที่ดีจริงๆนะคะ  :)  สำหรับหญิงสาวที่ชอบความโรแมนติกแบบไม่เลี่ยน แนะนำให้อ่านค่ะ

มีรูปคุณนองมาให้ดูด้วยค่ะ  คุณนองคนนี้ไม่ใช่คนตัวยักษ์ เคราเฟิ้มแบบในเรื่อง แต่เป็นคุณนองเวอร์ชั่นตัวสูง...มาก  ตัวขาวแต่ไม่มีหนวดเครา สุภาพ น่ารัก และไม่บ่นไม่ว่าเวลาขับรถพาเที่ยว  คุณน๊อง คณนองนะคะ

บ้านเล็กในป่าใหญ่



หนังสือชุดนี้เป็นหนังสือแนวครอบครัวที่ได้อ่านตั้งแต่เด็กๆ เข้าใจว่าได้อ่านตอนอายุ 11-12 ขวบ โดยอ่านจากห้องสมุดโรงเรียนตอนเข้าเรียนมัธยมต้น เป็นหนังสือชุดที่อ่านได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่รู้เบื่อ

จนถึงวันเกิดอายุครบ 24 ปี พี่สาวคนรองซื้้อหนังสือชุดนี้เป็นฉบับปกแข็งให้ทั้งชุด น่าเสียดายที่หายไปบ้างเพราะเป็นหนังสือที่ชอบ ก็จะให้คนอื่นยืมไปอ่านด้วย แล้วก็หายไป

ตั้งแต่อ่านหนังสือมาก็อยากอ่านฉบับภาษาอังกฤษมาโดยตลอดเพราะอยากรู้ว่าศัพท์จริงๆที่เขาใช้ในเรื่องคือคำว่าอะไร จนเมื่อไปเรียนหนังสือที่ออสเตรเลีย ก็ได้อ่านทั้งชุดเป็นภาษาอังกฤษ แล้วก็เกิดกิเลสอยากได้ จนในที่สุดก็สั่งซื้อออนไลน์มาเก็บไว้ทั้งชุด

จำได้ว่าได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งเป็นบันทึกการเดินทางของเด็กหญิงคนหนึ่งไปตามรอยลอร่า ในหนังสือมีรูปถ่าย ทำให้มองภาพได้ชัดเจนขึ้นว่าที่ลอร่าเล่านั้นเป็นอย่างไร เช่นลอร่าพูดถึงการเดินทางด้วยเกวียน เราจะนึกภาพเกวียนแบบฝรั่งไม่ออกเลย ตอนนั้นก็นึกถึงเกวียนแบบไทยๆ ยังคิดว่าจะไปพอได้ยังไง เกวียนเล็กนิดเดียว   อยากไปตามรอยลอร่าแบบนั้นจังเลย

และเมื่อเห็นเขาทำหนังสือชุดบ้านเล็กทั้งชุดภาษาไทยเป็นปกอ่อนก็อดไม่ได้ที่จะซื้อไว้อีกทั้งชุดเช่นกัน

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขียนโดย Laura Ingall Wilder เขียนเป็นเรื่องเล่าถึงครอบครัวของลอร่า โดยเริ่มตอนที่ลอร่าอายุ 11 ขวบ อาศัยอยู่ในป่าใหญ่ที่รัฐวิสคอนซิน มีพ่อ แม่ พี่แมรี่พี่สาว และมีน้องสาวอีกคนชื่อแครี่ ครอบครัวนี้อาศัยอยู่ในกระท่อม มีญาติอยู่ใกล้ๆเป็นครอบครัว แต่หลังจากนั้น พ่อก็พาออกเดินทางเพื่อบุกเบิกและจับจองที่ดิน ก็ได้เดินทางไปที่ต่างๆ จนในที่สุดไปตั้งรกรากที่ เดอะสเม็ตที่ South Dakota     จนลอร่าโต เรียนจบ เป็นครูและแต่งงานในที่สุด

การเขียนเล่าเรื่องราว ลอร่าทำได้น่าอ่านมาก อ่านแล้วรู้สึกถึงความรักความอบอุ่นในครอบครัว

ชีวิตหลังจากช่วงที่ลอร่าแต่งงาน ยังคงมีต่อในเรื่อง สี่ปีแรกและตามทางสู่เหย้า แต่อาจแล้วรู้้สึกเศร้าๆ ไม่น่าสนุกเหมือนหนังสือในชุด

อีกเล่มหนึ่งก็คือเรื่องตอนที่ลอร่าไปเยี่ยมลูกสาวที่ซานฟรานซิสโก ชื่อเรื่อง จดหมายจากลอร่า ทำให้รู้เรื่องต่างๆในซานฟรานมากขึ้นเยอะทีเดียว  :)

ทั้งหมดในชุดที่ซื้อมาตอนหลัง 12 เล่ม มีชื่อเรื่องตามนี้ค่ะ

บ้านเล็กในป่าใหญ่
บ้านเล็กในทุ่งกว้าง
เด็กชายชาวนา
บ้านเล็กริมห้วย
ริมทะเลสาบสีเงิน
ฤดูหนาวอันแสนนาน     
เมืองเล็กในทุ่งกว้าง
ปีทองอันแสนสุข
สี่ปีแรก
ตามทางสู่เหย้า
ชีวิตต้องสู้:ลอร่า อิงกัลล์สไวเดอร์
จดหมายจากลอร่า (West from Home)

http://en.wikipedia.org/wiki/Laura_Ingalls_Wilder

หนังสือชุดปริศนา ของ ว ณ ประมวญมารค

หนังสือชุดนี้มี 3 เรื่อง เรื่องแรกคือ ปริศนา เรื่องที่สองคือเจ้าสาวของอานนท์ และเรื่องที่สามคือ รัตนาวดี โดยตัวละครในสามเรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกัน แต่เนื้อเรื่องไม่ได้ต่อเนื่องกัน

ผู้แต่งหนังสือชุดนี้คือ ว ณ ประมวญมารค หรือ หม่อมเจ้าหญิงวิภาวดีรังสิต พระธิดาของ น.ม.ส. และเป็นชายาของหม่อมเจ้าปิยะรังสิต รังสิต

อ่านเล่มแรกคือปริศนา ตอนอ่านก็ยังเด็กมาก อยู่ช่วงประมาณ ม.ต้น เพราะฉะนั้นการที่นางเอกเป็นหญิงสาวสวย มาจากอเมริกา มาพบรักกับท่านชายที่แสนจะเพอร์เฟ็ค เป็นพล็อตเรื่องที่ชวนฝันจริงๆ แต่สิ่งที่ได้จากปริศนาคือการมองสภาพชีวิตคนในยุคนั้นซึ่งมีอะไรดีๆมาก เช่นการวางตัว ชีวิตความเป็นอยู่ มุมมอง ฯลฯ  รวมทั้งอ่านสนุกเป็นอย่างมาก

เจ้าสาวของอานนท์ เป็นภาคต่อจากปริศนา โดยจับตัวละครตัวหนึ่งคืออานนท์ซึ่งเป็นเพื่อนชายของปริศนาให้มาพบรักกับ สุ ซึ่งเป็นญาติกับปริศนา แต่ไม่รู้จักกันจนมาเฉลยเอาตอนจบ เรื่องนี้ทำให้รู้ว่า อ้อ พระเอกรุ่นโน้น เขาก็ทำงานกันเหมือนกัน พระเอกเป็นวิศวกรไปซ่อมเครื่องที่สวนของนางเอก ซึ่งมีกิจการสวนใหญ่โต เนื้อเรื่องก็ปะติดปะต่อจนรู้ว่านางเอกกับปริศนาเป็นญาติกัน โดยมีเบื้องหลังในครอบครัวของลุงของปริศนาเป็นเหตุ  จบแบบมีความสุขตามสไตล์ของท่าน ว ณ ประมวญมารค เช่นเคย

ส่วน รัตนาวดีเป็นหนังสือเล่มที่สามในชุด เป็นเรื่องของท่านหญิงรัตนาวดีไปเที่ยวยุโรป มีป้าแนบตามไปดูแล แล้วไปพบรักกับท่านชายดนัยวัฒนา โดยท่านชายปลอมตัวเป็นคนขับรถมาขับรถพาเที่ยว ที่ต้องปลอมตัวเพราะทีแรกท่านหญิงไปหาท่านชายแต่ไม่เจอ แล้วเมื่อไปหาเจอพระเอกแต่เข้าใจว่าพระเอกเป็นคนรับใช้ของท่านชาย พระเอกก็เลยสวมรอย เนื้อเรื่องก็เป็นการท่องเที่ยวในมุมมองของท่านหญิง ผสมกับความโรแมนติก

เรื่องนี้มีความคล้ายกับเรื่องทางรัก - สายสัมพันธ์ของโรสลาเรนมาก ทั้งพล็อต ฉาก กลวิธีการเขียน จนเกือบคิดว่าคุณโรสลาเรนอาจได้แรงบันดาลใจส่วนหนึ่งจากหนังสือเล่มนี้ด้วยซ้ำ

ส่วนตัวมีเรื่องรัตนาวดีเป็นแรงบันดาลใจให้อยากท่องเที่ยวยุโรปค่ะ รวมถึงนิสัยการเขียนโปสการ์ดกลับบ้านก็ได้จากเรื่องนี้และทางรัก


สามก๊ก

To be reviewed

ได้ยินเขาพูดว่า "ใครอ่านสามก๊กครบสามจบคบไม่ได้" ถ้านับจริงๆคิดว่าตัวเองอ่านครบสามจบ แต่เป็นการอ่านของเด็กสิบขวบ ภึงจะอ่านซ้ำซากไปมาหลายรอบ เมื่อจับมาอ่านอีกครั้งตอนอายุมากๆก็จะพบว่ามุมมองในการอ่านเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ความเข้าใจในสถานการณ์ก็ต่างกัน

บางประโยคในเรื่องก็ยังจดจำได้ ถึงเวลาจะผ่านมาหลายปี  เช่น "อันตัวท่านนี้หรือชื่อลกเจ๊ก เมื่อเด็กๆเคยลักส้มเขาเอาไปให้มารดา นั่งลงนี่เถิดเราจะเจรจาด้วย" ตอนนั้นอ่านด้วยความรู้สึกว่าขงเบ้งเก่งจัง รู้เรื่องของลกเจ๊กด้วย แต่มาอ่านตอนโตรู้สึกว่า น่ากลัวเกินไปแล้ว กับการหาข้อมูลของคนที่เราติดต่อด้วย

ในหนังสือเล่มที่อ่านเป็นฉบับเจ้าพระยาพระคลัง(หน) สองเล่มจบ หนักมากๆ มีสิ่งที่คาใจมาตลอดคือชื่อเมือง เพราะเมื่อโตขึ้นติดหนังสือกำลังภายใน เขาก็พูดชื่อเมือง แต่เมื่อเราไปเมืองจีนจริงๆ เวลาค้นหาชื่อเมืองต้องอิงภาษาอังกฤษและจีนกลาง เทียบชื่อเมืองปัจจุบันไม่ถูกเลย ดีที่เดี๋ยวนี้มีชุมชนคนอ่านสามก๊กที่เขาทำแผนที่ไว้ พอจะไปหาอ่านเพิ่มเติมได้

สามก๊กเริ่มต้นเรื่องปลายสมัยราชวงศ์ฮั่น

พุทธธรรม

To be reviewed

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ซื้อให้คุณแม่ในโอกาสครบรอบวันเกิด 68 ปี (ถ้าแม่อยู่ปีนี้จะอายุ 85 ปีค่ะ) ตั้งแต่ซื้อมาก็พยายามอ่าน แต่ไม่เคยอ่านได้จบ

จะพยายามอ่านให้จบในปีนี้และรีวิวไว้ค่ะ

ตุลาคม 2556
สองปีหลังจากโพสต์แรก มาบันทึกว่ายังอ่านไม่จบค่ะ

โอ้ การหาความรู้ใส่ตัวเป็นเรื่องยากจริงหนอ ทั้งๆที่รู้ว่าดี กลับไม่มีโอกาสได้ศึกษา บารมีมีไม่พอจริงๆ

Friday, August 19, 2011

เที่ยวฝั่งธน...



ได้ไปสัมมนา การเตรียมความพร้อมของอุดมศึกษาไทยกับการปรับตัวเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน วันที่18-19 สิงหาคม 2554 หอประชุมกองทัพเรือ ทีแรกก็งงๆไม่รู้จะไปยังไง ไม่รู้จักแถวนั้นเอาเลย ทั้งๆที่อยู่ฝั่งตรงข้ามท่าราชวรดิษฐ์แค่นี้เอง

ก็เลยเลือกที่จะพักโรงแรมเพราะไม่แน่ใจว่าถ้าเดินทางจากบ้านจะนานแค่ไหน อยู่โรงแรมใกล้ๆอย่างน้อยๆก็เดินทางใกล้กว่าและมีอาหารเช้าให้กินด้วย เลือกพักที่ รีสอร์ทบางพลัด เพราะเคยมาเมื่อสองปีก่อน ยังประทับใจมาก ตอนโทรมาจอง ตกใจ เพราะเขามีราคาโปรโมชั่น ลงไปเหลือแค่ 700 บาทต่อคืนรวมอาหารเช้า ทั้งๆที่เป็นโรงแรมสวย มีสไตล์มากๆ



เดินทางจากที่พักไปโรงแรมไม่ไกลเลย แต่ไปรถติดแถวศิริราชนิดหนึ่ง พอเข้าไปที่หอประชุม เห็นวิวเจ้าพระยาที่สวยมาก ฝั่งตรงข้ามเป็นท่าราชวรดิษฐ์ เห็นพระบรมมหาราชวัง มองไปทางขวา ก็เห็นพระปรางค์วัดอรุณอยู่ไม่ไกล จริงๆคืออยู่ถัดกันไปแต่เดินตัดไปไม่ได้ ต้องออกไปนอกถนนแล้วเดินเข้าซอยวัดอรุณอีกที




ตอนเที่ยงของวันสัมมนา 18 สิงหาคม 2554 ไม่อยากกินข้าวที่เขาจัดเลี้ยงเพราะรู้สึกว่าคนแน่นมาก คงต้องคอยกันนาน ก็เลยเดินไปเที่ยววัดอรุณ ทางเดินเข้าเขาปูเป็นหินก้อนใหญ่ๆ ดูโบราณมาก ถนนก็เล็กๆ ดูเหมือนถนนสมัยก่อน


วัดอรุณยังคงเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ มีคนมาเที่ยวมาก ส่วนใหญ่เห็นมาทางเรือ เดินดูรอบวัด รู้สึกตัวว่าไม่ได้มาที่นี่นานมาก หลายปีแล้ว เดินไปเยี่ยมเยียนยักษ์วัดแจ้งสองตนนั้น



ขากลับระหว่างทางเดินกลับหอประชุมกองทัพเรือ แวะกินข้าวมันไก่ไหหลำ เขาโฆษณาว่าเปิดมา 50 กว่าปีแล้ว ก็อร่อยดี เป็นรสชาติที่คุ้นเคย

อยู่แถวนี้สองวัน ชอบวิวที่นี่มาก วันสุดท้าย(วันที่สอง) ได้เข้าประชุมที่ห้องชมวังซึ่งอยู่อีกตึกหนึ่ง เป็นห้องชั้นบน มองเห็นวิวพระบรมมหาราชวังสวยมากๆ ตอนเลิกประชุมก็อาศัยเรือข้ามฟากของกองทัพเรือเขารับส่งฟรีไปลงที่ท่าราชวรดิษฐ์ (แต่ต้องเป็นลำสีขาว ลำสีเทาๆเขาไม่ให้คนทั่วไปขึ้น) ตอนกลับฝนตกพอดี เปียกไปตามๆกัน





Tuesday, May 17, 2011

นกในดวงใจ

วันนี้เข้า FB กลุ่มย่อย มีพี่คนหนึ่งโพสต์รูปนกกะลิงเขียดหางหนาม นกหายากที่แก่งกระจาน ก็เลยมานั่งนึกว่าตัวเองชอบนกอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า นึกๆแล้วก็อยากบันทึกไว้ เพราะรายการดูนกทั้งหลายมันก็หายไปเรื่อยๆ

นกที่ชอบ: กระเต็นอกขาว ตะขาบทุ่ง

นกที่อยากเห็น: กะลิงเขียดหางหนาม

นกที่ประทับใจ: Towny Frogmouth, Java Frogmouth, Green Broadbill, Asian Paradise Bee eater, Common Starring

Monday, May 16, 2011

ปริศนาสวนลับ

เรื่องนี้อ่านจบไปเดือนที่แล้ว แต่อยากจะบันทึกไว้ว่าชอบเรื่องนี้มาก เดี๋ยวค่อยมารีวิว

ตำนานลับขุมทรัพย์เทมปลาร์


หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือแปลจาก The Templar Legacy ของ Steve Berry คนเขียนหนังสือรหัสลับรัสปูตินที่วางแผงไปก่อนหน้านี้ หนังสือเป็นฉบับแปลโดย ธนชน สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ เดือน มิถุนายน ปี 2550 (หนังสือภาษาอังกฤษพิมพ์ปี 2006) จำนวน 503 หน้า ราคา 379 บาท ถูกจัดในกลุ่ม Unputdownable Mystery

เนื้อหาเป็นเรื่องการไล่ล่าขุมทรัพย์เทมปลาร์ที่ดีอีกเล่มหนึ่ง ยังอ่านไม่จบ แต่มาบันทึกไว้ก่อน กลัวลืม

ตัวเอกชื่อมาโลน และสเตฟานี ซึ่งมาโลนเคยเป็นอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาของสเตฟานีในหน่วยสายลับอเมริกันแต่มาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยเรื่องส่วนตัวของสเตฟานี ผู้มีสามีที่เสียชีวิตไปแล้วซึ่งค้นคว้าเกี่ยวกับขุมทรัพย์ในตำนาน

เรื่องนี้ดำเนินเรื่องใน เดนมาร์ก และ อาวิญง ฝรั่งเศส
เวลาอ่านแล้วจะนึกถึงเล่มอื่นๆที่มีเนื้อหาเี่กี่ยวข้องกัน สนุกดี เหมือนคุ้นเคยกับเรื่องนี้มากทั้งๆที่เป็นเรื่องของศาสนาคริสต์

Saturday, May 14, 2011

ปลาในตลาดสด...รู้จักกันบ้างไหมคะ


สองสามวันก่อนไปตลาดแล้วซื้อปลาตัวเล็กๆมาเยอะแยะจะเอามาต้มให้น้องแมวลูกอ่อนที่บ้าน หยิบปลาขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองรู้จักปลาพวกนี้น้อยมาก ในเจ็ดชนิดรู้จักแต่ปลากระบอกอย่างเดียว ก็เลยโพสต์ถามใน FB ได้คำตอบจากน้องกุ้งว่า

"แถวซ้ายมี...ปลาทราย ปลากดขาว ปลาแดง และปลาหัวมัน, แถวขวามี...ปลากระบอก ปลาจวด และปลาแป้น ทุกชนิดสามารถทาขมิ้น กระเทียม และเกลือทอดกรอบได้หมดเลยค่ะ ถ้าเมนูอื่นก็มีแกงส้ม หรือต้มเต้าเจี้ยวได้ค่ะ แต่ที่บ้านถ้ามีปลาเล็ก ๆ หลากหลายแบบนี้ชอบทำคั่วเกลือค่ะ...ตำตะไคร้(เยอะ ๆ) ขมิ้น กระเทียม หัวหอม เกลือ เข้าด้วยกัน ใส่กะปิเล็กน้อย ใส่น้ำพอขลุกขลิก ตั้งไฟให้เดือด ใส่ปลาลงไป ตั้งไฟปานกลางให้ปลาสุก สังเกตุให้เครื่องเกาะตัวปลา ยกลงคลุกข้าวร้อน ๆ ...อร่อยเหาะค่ะ"

รู้สึกตัวเองรู้เรื่องใกล้ตัวน้อยจัง ทีเรื่องไกลตัวจะรู้เยอะแยะ...รู้จักซีลาคานส์ รู้จักปลาประหลาดๆ แต่ปลาที่กินได้ในตลาดสดไม่ยักรู้จัก ก็เอามาบันทึกกันไว้ดีกว่าเป็นความรู้ใกล้ตัว

และก็พยายามเก็บภาพปลาในตลาดไว้เรื่อยๆ ใครจะไปรู้ว่าต่อไปเราอาจจะไม่ได้เห็นปลาพวกนี้อีก










Saturday, March 19, 2011

Super moon/Vernal equinox

วันนี้มี Super moon ดวงจันทร์โคจรเข้าใกล้โลก เวลาที่ใกล้ที่สุดคือตีสอง แต่คาดว่าจะไม่ตื่นมาดู ก็เลยดูตั้งแต่หัวค่ำ ปรากฏว่ามีฝนตกอีก ก็เลยตามมาดูตอนสามทุ่ม พระจันทร์กลมโตสวยงาม แต่น้อง Canon compact สุดที่รักทำได้ดีที่สุดแค่นี้ก็เลยไม่เห็นกระต่ายบนดวงจันทร์ :)

Supermoon เป็นปรากฏการณ์ที่ดวงจันทร์โคจรเข้าใกล้โลกมากที่สุดและเป็นวันเพ็ญพอดี เราจะมองเห็นดวงจันทร์ขนาดใหญ่กว่าปกติค่ะ ปีหนึ่งๆอาจเกิดซูเปอร์มูนได้หลายครั้ง ปี 2556 เกิด 3 ครั้ง ปี 2557 เกิด 3 ครั้ง วันที่ 12 กรกฎาคม  10 สิงหาคม และ 9 กันยายน ค่ะ



ส่วนพรุ่งนี้เป็นวันวสันตวิษุวัต หรือ Vernal Equinox หรือ Spring Equinox ซึ่งเป็นวันที่จุดที่ระนาบวงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ ตัดกับเส้นศูนย์สูตรพอดี สิ่งที่เกิดขึ้นคือ บนโลกนี้กลางวันและกลางคืนจะมีเวลาเท่ากันค่ะ ปีหนึ่งจะมีวันแบบนี้สองวัน สำหรับปีนี้คือวันที่ 20 มีนาคมและ 23 กันยายนค่ะ (หลังจากวันที่ 20 มีนาคม บ้านเราจะเริ่มมีกลางวันนานกว่ากลางคืน แล้วจะแกว่งกลับมามีกลางวันเท่ากับกลางคืนในวันที่ 23 กันยายน แล้วจะเริ่มมีเวลากลางคืนนานกว่ากลางวันอีก)...... เหตุผล: เพราะโลกมันเอียงค่ะ :)

ปีนี้ปรากฏการณ์ทั้งสี่จะเป็นตามนี้
20 มีนาคม Vernal Equinox
21 มิถุนายน Summer Solstice
23 กันยายน Autumnal Equinox
22ธันวาคม Winter Solstice

Wednesday, March 16, 2011

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ญี่ปุ่น

สึนามิครั้งใหญ่ที่ผ่านมาทำให้เกิดวิกฤติการณ์กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของญี่ปุ่น รู้สึกตัวว่าใกล้ตัวมาก อยากจะบันทึกสถานการณ์และความรู้เรื่องนิวเคลียร์ไว้ให้ชัดเจน

ศุกร์ที่ 11 มีนาคม

2:46 p.m.(เวลาเที่ยงสี่สิบหกนาทีในระเทศไทย) แผ้นดินไหวที่ความรุนแรงระดับ 9.0 ก่อให้เกิดคลื่นสูง 9 เมครซัดเข้ามาในพื้นที่ชายฝั่ง
ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Fukushima Daiichi ของบริษัท Tokyo Electric Power Company's (TEPCO) ซึ่งอยู่ทางใต้ของ Sendai ประมาณ 65 กิโลเมคร

เสาร์ที่ 12 มีนาคม

2.06 a.m.: ระดับรังสีที่เตาปฏิกรณ์หมายเลข 1 เพิ่มขึ้น
6:22 p.m. มีการระเบิดของไฮโดรเจนที่เตาปฏิกรณ์หมายเลข 3 มีผู้บาดเจ็บ 4 คน ทำการอพยพประชาชนประมาณ 200,000 คน ในรัศมี 20 กิโลเมตรรอบบริเวณ

จันทร์ที่ 14 มีนาคม

11 a.m. มีการระเบิดของไฮโดรเจนที่เตาปฏิกรณ์หมายเลข 3 สร้างความเสียหายให้ระบบทำความเย็นของเตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 มีผู้บาดเจ็บ 11 คน

อังคารที่ 15 มีนาคม

6 a.m. มีการระเบิดครั้งที่สามภายในสี่วัน ส่งผลต่อที่เตาปฏิกรณ์หมายเลข 2

พุธที่ 16 มีนาคม

7 a.m. มีเปลวไฟครั้งที่สองภายในสองวันที่พบในอาคารเตาปฏิกรณ์หมายเลข 4

Scale of nuclear accidents

  • Level 7 - Major release of radioactive material. Example: Chernobyl, Ukraine, 1986
  • Level 6 - Significant release of radioactive material. Example: Kyshtym, Russia, 1957
  • Level 5 - Limited release of radioactive material. Example: Three Mile Island, US, 1979, and Windscale, UK, 1957
  • Level 4 - Minor release of radioactive material with at least one death from radiation. Example: Tokaimura, Japan, 1999
  • Level 3 - Exposure in excess of 10 times the statutory annual limit for workers
  • Level 2 - Exposure of a member of the public in excess of 10mSv (average annual dose is 1mSv)
  • Level 1 - Exposure of a member of public above statutory annual limit. Minor safety problems
(Source: UN nuclear agency, IAEA)

อธิบายปัญหากันง่ายๆว่า ในเตาปฏิกรณ์มีแท่งเชื้อเพลิง ซึ่งเมื่อเกิดแผ่นดินไหวจะมีแท่งควบคุมการเกิดปฏิกิริยาเลื่อนขึ้นมาหยุดปฏิกิริยา แต่เนื่องจากระบบทำความเย็นใช้งานไม่ได้เพราะเครื่องจ่ายไฟเสียหาย น้ำที่หล่อแท่งเชื้อเพลิงจึงเดือดกลายเป็นไอ ปริมาณน้ำจึงลดระดับลงจนแท่งเชื้อเพลิงมีความร้อนสูงและหลอมเหลวบางส่วน โลหะผสมเซอร์โคเนียมที่หุ้มแท่งเชื้อเพลิงจึงทำปฏิกิริยากับไอน้ำเกิดก๊าซไฮโดรเจน เมื่อวิศวกรระบายก๊าซออกมาจึงเกิดการระเบิดขึ้น

Saturday, March 12, 2011

โบสถ์มหาอุตตม์

วันนี้ทีมสารสนเทศศาสตร์พา Dr. Whymark และภรรยาไปเที่ยวในเมืองนคร เช้าพาไปชมพระบรมธาตุ กินข้าวเที่ยงที่ร้านขนมจีนเมืองคอนที่ซอยพานยม บ่ายไปเดินซื้อของที่หลังสนามหน้าเมือง แล้วไป
แวะร้านโกปี๊แป๊บนึงก่อนพาไปคีรีวง ไปแล้วยังเหลือเวลาก็เลยพาไปวัดเขาขุนพนมก่อนจะพาไปกินข้าวเย็นที่ร้านชาวเรือ

ที่วัดเขาขุนพนม เดินเข้าไปวันนี้รู้สึกแปลกตาเพราะมีอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินกำลังสร้างขึ้นใหม่ เดิมไม่เคยมี ศูนย์วิทยาศาสตร์ก็มีตึกใหม่ มีรั้วกั้นเป็นสัดส่วนแยกจากวัด 


เดินขึ้นบันไดไปที่ตำหนักพระเจ้าตาก รู้สึกแปลกตาอีกเพราะมีไก่รูปปั้นวางเต็มไปหมด ลุงคนเฝ้าสถานที่มาอธิบายให้ฟังว่าสมัยก่อนยามว่างเขาชนไก่กัน เมื่อนำของมาถวายพระเจ้าตากจึงถวายเป็นไก่ ที่ตลกคือ มีสาวๆมาถวายไก่เป็นคู่แต่ตัวจะไม่เท่ากันมีตัวใหญ่และตัวเล็ก ตัวใหญ่คือของฝ่ายสาวจะได้ข่มหนุ่มๆในคอนโทรลได้ :)



ลุงเขาบอกว่าจะพาเข้าไปชมในโบสถ์มหาอุตม์ โชคดีจัง อยากเข้ามาตั้งนานแล้ว แล้วลุงเขาก็อธิบายลักษณะของโบสถ์ให้ฟัง ตามคลิปนี้เลยค่ะ http://www.youtube.com/watch?v=YjGJqaOgCEo



ถามลุงว่าในเมืองไทยมีโบสถ์มหาอุตม์แแบบนี้ที่ไหนอีกบ้าง ลุงก็บอกว่าไม่เคยได้ยิน คิดว่ามีแห่งเดียวในประเทศไทย ก็เลยกลับมาค้นข้อมูลในอินเทอร์เน็ต เจออย่างน้อยๆก็อีก 5 แห่งคือ

1. วัดนางสาว อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
2. วัดสุทธาวาสวิปัสสนา อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
3. อุโบสถมหาอุตม์ ณ วัดห้วยสอง ต.สุขเดือนห้า อ.เนินขาม จ.ชัยนาท มีพิธียกช่อฟ้าและพิธีเบิกเนตรพระประธานในอุโบสถมหาอุตม์ในวันที่ ๘ - ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๒
4. วัดสมณโกฏฐาราม ม.7 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
5. โบสถ์มหาอุตม์ ณ วัดบ้านผึ้งนาเกลือ อ.เกาะคา จ.ลำปาง (กำลังสร้างในปี 2554)

คัดลอกข้อมูลมาเก็บไว้อ่าน:

"สิ่งที่ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญภายในวัดคือ โบสถ์วัดนางสาว เป็นสิ่งมหัศจรรย์แปลกกว่าโบสถ์ทั่วไป กล่าวคือ เป็นโบสถ์ที่ไม่มีหน้าต่างเลยแม้แต่บานเดียว โดยมีประตูเข้าออกเพียงประตูเดียว เรียกกันคุ้นหูว่าโบสถ์มหาอุตตม์ ซึ่งค่อนข้างหาดูได้ยากและพูดได้ว่า มีแห่งเดียวในสยาม บรรยากาศภายในโบสถ์เย็นสบายและมีแสงสว่างไม่มืดทึบ มีอากาศถ่ายเทอย่างเพียงพอ ทั้งๆ ที่มีทางเข้าออกเพียงประตูเดียวเท่านั้นซึ่งก็น่าแปลกอยู่เหมือนกัน ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมแม่น้ำท่าจีนโดยจะหันหน้าออกไปทางแม่น้ำ

โบสถ์มหาอุตตม์มีลักษณะฐานโค้งรูปเรือสำเภา ซึ่งเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมที่พบมากในช่วงอยุธยาตอนปลาย จนถึงช่วงรัตนโกสินทร์ ผนังด้านนอกประดับด้วยกระเบื้องลายนูนต่ำ ภาพเทวดาเหาะเหินเดินอากาศ โบสถ์หลังนี้มีขนาดกะทัดรัด ไม่มีหน้าต่าง มีประตูทางเข้าด้านหน้าเพียงประตูเดียว เป็นลักษณะเฉพาะของโบสถ์มหาอุตตม์ ซึ่งในสมัยโบราณ ใช้สำหรับวิปัสสนากรรมฐาน เนื่องจากต้องการอยู่ในพื้นที่จำกัด ไร้การรบกวนจากสภาพแวดล้อม ภายในประดิษฐานพระประธานชื่อหลวงพ่อมหาอุตตม์ซึ่งมีชื่อเสียงมากในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพบูชาของผู้คนในจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียงมากมาย ส่วนฝาผนังด้านในจะเป็นจิตรกรรมภาพเขียนซึ่งเป็นศิลปะของไทยที่เรียกกันว่าลายลดน้ำซึ่งก็สวยงามมากเลยทีเดียว"


Friday, March 11, 2011

สึนามิถล่มญี่ปุ่น

วันนี้งานยุ่งทั้งวัน กำลังอยู่ในห้องสอนตอนสี่โมงกว่า คุณดวงพรโทรมาถามไถ่ว่ารู้ข่าวสึนามิแล้วยัง วันนี้ตกข่าวเป็นอย่างมาก กลับมาบ้านรีบเปิดข่าวดู น่ากลัวมาก

BBC บอกว่า

Key points

  1. 8.9 magnitude earthquake hits the north-east of Japan triggering a tsunami that has caused extensive damage
  2. Waves as high as 10m (33ft) strike Japanese coastal towns, with numerous casualties feared
  3. A tsunami warning covers Japan, the Philippines, Hawaii, the Pacific coast of Russia, Indonesia, Taiwan, Australia, New Zealand and also Central and South America


ปีที่แล้วก็มีเรื่องภูเขาไฟระเบิดที่ไอซ์แลนด์ ปีนี้ก็มีภัยธรรมชาติอีกแล้ว

Friday, February 04, 2011

โรงไฟฟ้าถ่านหิน... ไม่เอาค่ะ


ช่วงนี้มีข่าวคราวต่อต้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินของคนในอำเภอท่าศาลา ตามข่าวจาก Facebook เรื่อยๆก็เห็นว่ามีการนัดชุมนุมกันที่หน้าอำเภอ วันที่ 22 และ 24 กุมภาพันธ์ เวลาขับรถจะเห็นหลายบ้านเขียนป้ายไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ติดอยู่หน้าบ้าน เขียนแบบง่ายๆไม่เน้นสวย แต่มีจำนวนมากใช้ได้ เห็นตั้งแต่แถบกลายไปถึงสระบัว คิดว่าชาวบ้านตื่นตัวกันมากใช้ได้ทีเดียว

ในม.วลัยลักษณ์ก็มีเวทีที่มีนักศึกษาเข้าร่วมเมื่อสองสามวันก่อน ไม่ได้เข้าร่วม แต่เห็นด้วยว่าไม่ควรสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินแถวนี้

เนื่องจากแค่เห็นด้วยเฉยๆคงไม่พอก็เลยหาข้อมูลเพิ่มเติมจะได้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ :)

1. ข้อมูลจากเว็บของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เขาก็ยอมรับมามีปัญหาและระบุวิธีแก้ไข แต่ปัญหามันก็คือปัญหาละนะ และมันก็อันตรายต่อคนทั่วไป
"ปัญหามลภาวะอากาศโรงไฟฟ้าแม่เมาะปี 2535

ในเดือนตุลาคม 2535 ได้เกิดเหตุการณ์มลภาวะอากาศที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะ ทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยจองชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบ ๆ โรงไฟฟ้า ตลอดจนทำให้เกิดความเสียหายต่อพืชและสัตว์เลี้ยง สาเหตุเนื่องจากสภาพอากาศที่แปรเปลี่ยนไปจากเดิม เกิดความกดอากาศสูลจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทย และสภาพอากาศปิด (inversion) ด้วย

การดำเนินการแก้ไขปัญหา

  • กำหนดจำนวนโรงไฟฟ้าที่พีงจะพัฒนาได้ในบริเวณลุ่มแม่เมาะ
  • กำหนดความสูงของปล่อง
  • กำหนดประสิทธิภาพและเทคโนโลยีของเครื่องดักฝุ่น
  • กำหนดให้ติดตั้งเครื่องดักก๊าซซัลเซอร์ไดออกไซด์ สำหรับโรงไฟฟ้าเครื่องที่ 12 และ 13 (ชนิด wet Scrubber ประสิทธิภาพ 92%)
  • กำหนดเลือกใช้เตาเผาชนิด Low Nox Burner

นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งเครือข่ายสถานีอุตุนิยมวิทยา และสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในบริเวณลุ่มแม่เมาะ ปัจจุบันมีสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศชนิดต่อเนื่องตลอดเวลา 12 สถานี"


http://maemoh.egat.com/index_maemoh/index.php?content=environment&topic=2


ปัญหามลภาวะอากาศโรงไฟฟ้าแม่เมาะปี 2535

ในเดือนตุลาคม 2535 ได้เกิดเหตุการณ์มลภาวะอากาศที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะ ทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยจองชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบ ๆ โรงไฟฟ้า ตลอดจนทำให้เกิดความเสียหายต่อพืชและสัตว์เลี้ยง สาเหตุเนื่องจากสภาพอากาศที่แปรเปลี่ยนไปจากเดิม เกิดความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทย และสภาพอากาศปิด (inversion) ด้วย

การดำเนินการแก้ไขปัญหา
การดำเนินการแก้ปัญหา กฟผ. ได้กำหนดมาตรฐานการแก้ไขปัญหาออกเป็น 2 ระยะ คือ

1. มาตรการระยะยาว
ในการดำเนินการแก้ปัญหาในระยะยาว ครม. ได้มีมติให้ กฟผ. ติดตั้งเครื่องกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ สำหรับโรงไฟฟ้าเครื่องที่ 4-7 นอกเหนือจากโรงไฟฟ้าเครื่องที่่ 8-11 ที่กำลังดำเนินการก่อสร้าง และโรงไฟฟ้าเครื่องที่ 12-13 ซึ่งดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมกับตัวโรงไฟฟ้า ส่วนโรงไฟฟ้าเครื่องที่ 1-3 เป็นเครื่องเก่าไม่เหมาะสมที่จะติดตั้ง จะเดินเครื่องในช่วงที่มีอากาศโปร่ง

2. มาตรการระยะสั้น
เนื่องจากการดำเนินการติดตั้งเครื่องกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ สำหรับโรงไฟฟ้าเครื่องที่ 8-11 ซึ่งแล้วเสร็จในต้นปี 2541 ดังนั้นในระหว่างช่วงฤดูหนาวปี 2536 - 2540 กฟผ. ได้กำหนดมาตรการระยะสั้นเพื่อบรรเทาปัญหามิให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของชาวบ้าน ดังนี้

  1. ลดกำลังผลิตในช่วงสภาวะอากาศไม่อำนวย (ระหว่าง 01:00-12:00 น.ในปี 2536-2537 และระหว่าง 06:00-13:00 น. ในปี 2537-2540) ลงเหลือประมาณ 700-1,000 MW
  2. กำหนดการหยุดซ่อมแซมของโรงไฟฟ้าแม่เมาะให้ตรงกับช่วงฤดูหนาว
  3. สำรองใช้ถ่านลิกไนต์เปอร์เซนต์ซัลเฟอร์ต่ำ (น้อยกว่า 2 เปอร์เซ๊นต์ซัลเฟอร์) ใช้ในช่วงสภาะอากาศไม่อำนวยในฤดูหนาวปี 2536-2540 และหาถ่านลิกไนต์ เปอร์เซ็นต์ซัลเฟอร์ต่ำ (1 เปอร์เซ็นต์ซัลเฟอร์) จากแหล่งภายนอก (บริษัท ลานนาลิกไนต์ จำกัด, บริษัท บ้านปู จำกัด, บริษัท เหมืองเชียงม่วน จำกัด และ บริษัท ชัยธารินทร์ จำกัด) มาเสริมสำหรับฤดูหนาวปี 2537-2541
  4. ใช้น้ำมันดีเซลเปอร์เซ็นต์ซัลเฟอร์ต่ำ (0.5-0.6 เป็นเซ็นต์ซัลเฟอร์) เสริมในช่วงวิกฤติกรณที่พบว่าค่าความเข้มข้นของก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) ณ สถานีใดสถานีหนึ่งกำลังสูงขึ้น
  5. ปรับปรุงกระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศ ที่มีอยู่ให้เป็นระบบ Real time Air Qality Monitoring และเชื่อมดยงผลการตรวจวัด ให้สามารถอ่านค่าได้ที่ห้องควบคุมการเดินเครื่องโรงไฟฟ้า (จำนวน 8 สถานี ก่อนพฤศจิกายน 2537 และเพิ่มเป็น 12 สถานี หล้ังพฤศจิกายน 2537)
  6. ดำเนินการจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือตรวจวัดคุณภาพอากาศ เครื่องมืออุตุนิยมวิทยาคอมพิวเตอร์ ในขณะนี้มีสถานะตรวจวัดคุณภาพอากาศชนิดต่อเนื่อง 12 สภานี ส่วนระบบ Air Quality Warning System กำลังขอให้ AUSAID ดำเนินการ

ปัญหาและอุปสรรค

  1. การลดกำลังผลิตที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะ ซึ่งในช่วง 06:00-13:00 น. ในฤดูหนาวปี 2537-2538 ลงต่ำถึง 700 เมกกะวัตต์ เพื่อรักษาระดับคุณภาพอากาศไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของชาวบ้าน มีผลกระทบต่อระบบการผลิดเพราะจำเป็นต้องผลิดไฟฟ้าจากแหล่งผลิดไฟฟ้าจากแหล่งอื่น ๆ ในระบบ เพื่อสนองตอบความต้องการของผู้ใช้ไฟฟ้าให้เพียงพอ
  2. มาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศสำหรับก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ก่อนเกิดเหตการณ์มลภาวะอากาศแม่เมาะปี 2535 ประเทศไทยไม่มีมาตรฐานช่วงสั้น ๆ คือค่าเฉลี่ย 1 ชั่วโมง มีแต่ค่าเฉลี่ย 1 วัน(300 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) และค่าเฉลี่ย 1 ปี (100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ต่อมากรมควบคุมมลพิษได้ให้ใช้ค่าเบื้องต้นเฉลี่ยน 1 ชั่วโมง 1,300 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ชั่วคราว ซึ่งขณะนี้ได้กำหนดเป็นค่ามาตรฐานเฉลี่ย 1 ชั่วโมง สำหรับพืิ้นที่อำเภอแม่เมาะ ส่วนการศึกษาผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนโดยกรมอนามัย (เริ่มทำการศึกษาวิจัยเดือนตุลาคม 2537) จะเป็นส่วนประกอบการพิจารณาปรับปรุงมาตรฐานในอนาคต
  3. ปริมาณถ่านคุณภาพดี ที่มีเปอร์เซ็นต์ซัลเฟอร์เจือปนต่ำ ในบ่อเหมืองลิกไนต์แม่เมาะมีปริมาณน้อยและยากต่อการจัดการเพื่อนำมาใช้ในช่วงฤดูหนาว ขณะนี้ กฟผ. ได้ทำการแก้ไขโดยซื้อถ่านจากเหมืองเอกชนมาเสริมในฤดูหนาวปี 2537-2541 เป็นจำนวน 1,039,000 ตัน แต่มีขึดจำกัดที่การขนส่งโดยรถบรรทุกและถ่านจากเหมืองเอกชนมีค่าความแข็งสูง อาจจะมีปัญหากับเครื่องโม่และเครื่องบดได้
  4. ราษฏรที่ได้รับผลกระทบไม่เชื่อข้อมูลของทางราชการ เกี่ยวกับผลการพิสูจน์ความเสียหายเนื่องจากก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ต่อพืชและสัตว์ ตลอดจนการวินิจฉัยทางการแพทย์เกี่ยวกับการเจ็บป่วยเนื่องมาจากสาเหตุของก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ทำให้ชาวบ้านชุมนุมร้องเรียนในเดือนตุลาคม 2537 เพื่อให้ กฟผ. ดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เสร็จโดยเร็ว และให้ กฟผ. รักษาพยาบาลฟรีแก่ชาวบ้านที่เจ็บป่วยเนื่องจากก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และโรคต่อเนื่องรวมทั้งจ่ายค่าชดเชยค่าเสียหายต่อพืชและสัตว์ ในการดำเนินการแก้ไขปัญหารัฐบาลได้ตั้งคณะอนุกรรมการชดใช้ค่าเสียหายแ่ก่ราษฏรที่ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ โดยมีรองผู้ว่างราชการจังหวัดลำปางเป็นประธาน กรรมการประกอบด้วยตัวแทนหน่วยราชการ ตัวแทนชาวบ้าน ผู้ทรงคุณวิฒิ และ กฟผ. มีหน้าที่ตรวจสอบและพิจารณาชดใช้ค่าเสียหายแก่ราษฏรที่ได้รัีบผลกระทบ

การประสานงานและการดำเนินการร่วมกับหน่วยราชการต่าง ๆ
กรมควบคุมมลพิษ กับ กฟผ.

  • กรมควบคุมมลพิษ ขอความช่วยเหลือทางวิชาการและผู้เชี่ยวชาญมา US Environment Protection Agency (USEPA) และ US Department of Energy (USDOE) มาตรวจสอบถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2535 โดยการสนับสนุนด้านงบประมาณจาก US Agency for International Developemnt (USAID) ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้สรุปว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นเนื่องจากสภาวะอากาศปิด ทำให้ควันจากปล่องไม่สามารถระบายสู่บรรยากาศชั้นบนได้ (Fumigation) พร้อมทั้งเห็นควรให้การสนับสนุนแก่ฝ่ายไทยในเรื่องการตรวจสอบ audit เครื่องมือตรวจวัดการพัฒนาแบบจำลองทางคณิตศาสตร์สำหรับคาดการณ์คุณภาพอากาศ และให้เจ้าหน้าที่ของกรมควบคุมมลพิษและ กฟผ. ไปอบบรมที่ USEPA
  • การพัฒนาแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ สำหรับคาดการณ์คุณภาพอากาศในพื้นที่แม่เมาะ กรมควบคุมมลพิษ และ กฟผ. ร่วมกับ USEPA และ Nation Oceanic Atmosheric Administration (NOAA) โดยการสนับสนุนงบประมาณจาก USAID และ กฟผ. ดำเนินการปรับปรุงและทดสอบแบบจำลองที่เหมาะสมกับพื้นที่แม่เมาะ โดยพิจารณากรณีการเกิด Fumigation ร่วมอยู่ในแบบจำลอง การศึกษาขึ้นต้นแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2537 และในปี 2538 กรมควบคุมมลพิษ และ กฟผ. จะดำเนินการต่อเนื่องจาก USEPA/NOAA ในการ Validate แบบจำลองดังกล่าวให้ถูกต้องและแม่นยำมากขึ้น โดยมีงบประมาณสำรหับการดำเนินการจากกรมควลคุมมลพิษ 35 ล้านบาท และจาก กฟผ. อีกจำนวนหนึ่ง
  • การพิจารณาแนวทางเลือก ในการควบคุมการะบายก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์จากหน่วยผลิตกระแสไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าเครื่องที่ 1-7 จากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นผู้ดำเนินการศึกษาโครงการ "Development of System Wide Emission Control Strategies Application to Mae Moh Power Plants" โดยเริ่มศึกษาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2537 แล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2537
กรมอนามัย กับ กฟผ. และกรมควบคุมมลพิษ
  • กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข โดยความช่วยเหลือของ USEPA และวิทยาลัยสาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้ความร่วมมือของ กฟผ. และกรมควบคุมมลพิษ ได้จัดทำแผนและรายละเอียดผลกระทบของมลพิษทางอากาศจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะต่อสุขภาพอนามัย โครงการมีระยะเวลา 5 ปี เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2537 ใช้งบประมาณทั้งหมดประมาณ 31 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นเงินสนับสนุนจาก กฟผ. 14.5 ล้านบาท ในช่วง 2 ปีแรก ส่วน 3 ปีหลัง กรมอนามัยจะตั้งงบประมาณดำเนินการเอง
กรมวิชาการเกษตร กับ กฟผ.
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมวิชาการเกษตร ได้ทำการศึกษาวิจัยเรื่องผลกระทบของก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ที่มีผลต่อพืชและสภาพดินและน้ำ และการใช้ประโยชน์ของยิปซัมและขึ้เถ้าจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะเพื่อการเกษตร โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2537 เป็นระยะเวลา 3 ปี ใช้งบประมาณทั้งหมด 3.335 ล้านบาท โดยใน 2 ปีแกร กฟผ. สนับสนุนด้านงบประมาณ เป็นเงิน 2.57 ล้านบาท ส่วนในปีสุดท้าย จะใช้งบของกรมวิชาการเกษตร

http://maemoh.egat.com/index_maemoh/index.php?content=environment&topic=3


ปัญหามลภาวะอากาศโรงไฟฟ้าแม่เมาะปี 2541

เมื่อวันที่ 17-18 สิงหาคม 2541 ได้เกิดเหตุการณ์มลภาวะทางอากาศที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะ โดยมีสาเหตุจากการที่เครื่องกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ขัดข้อง ต้องหยุดซ่อมฉุกเฉิน และประกอบกับเป็นช่วงที่สภาพอากาศแปรปรวนทำให้เกิดผลกระทบขึ้น กฟผ. ได้ดำเนินการดังนี้

  1. การตรวจสอบความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือ
    กฟผ. ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบความเสียหาย และให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ อำเภอแม่เมาะ โรงพยาบาลแม่เมาะ สาธารณสุขอำเภอ เกษตรอำเภอ ส่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เข้าไปช่วยเหลือราษฎรที่เจ็บป่วยจัดพาหนะ รับ-ส่ง ราษฎรที่เจ็บป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแม่เมาะรวมทั้งส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจความเสียหายของพืชผลทางการเกษตรของราษฎรเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป
  2. การชดเชยค่าเสียหาย
    ได้จัดให้มีการประชุมร่วมกันระหว่างอำเภอแม่เมาะ ตัวแทนราษฎรที่ได้รับผลกระทบและ กฟผ. เพื่อพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง และจ่ายค่าชดเชยความเสียหาย ให้แก่ราษฎรที่ได้รับ ผลกระทบ จำนวน 1,225 ราย จาก 4 ตำบล 12 หมู่บ้าน ของอำเภอแม่เมาะ โดยจ่ายเป็นค่าชดเชยให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพอนามัย จำนวน 868 ราย เป็นเงิน 2,683,921 บาท จ่ายเป็น ค่าชดเชยแก่ราษฎรที่พืชผลทางการเกษตรได้รับผลกระทบจำนวน 1,211 ราย เป็นเงิน 28,886,247.50 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 31,570,168.50 บาท
  3. การดำเนินการแก้ไขปัญหา
    คณะรัฐมนตรี และคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อแก้ไขปัญญา และฟื้นฟูสภาพแวดล้อมบริเวณโรงไฟฟ้าและเหมืองแม่เมาะ ได้มีมติให้มีมาตรการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ดังนี้
    1. ให้ กฟผ. ติดตั้งเครื่องดักก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ สำหรับโรงไฟฟ้าเครื่องที่ 4-7 โดยมีกำหนดแล้วเสร็จประมาณ ต้นปี 2543 นอกเหนือจากโรงไฟฟ้าเครื่องที่ 8-13 ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จและนำเข้าใช้งานแล้ว ส่วนโรงไฟฟ้า เครื่องที่ 1-3 เป็นเครื่องเก่าไม่เหมาะสมที่จะติดตั้งเครื่องดักก๊าซซัลเฟอร์ ไดออกไซด์ให้เดินเครื่องน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น และเพื่อให้เพียงพอที่จะจ่ายไฟฟ้าให้กับ 5 จังหวัด ภาคเหนือ คือ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำพูน และลำปาง ให้เดินเครื่องโรงไฟฟ้าเครื่องที่ 1-7 ซึ่งยังไม่ได้ติดตั้งเครื่องดักก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ผลิตไฟฟ้ารวมกันไม่เกิน 500 เมกะวัตต์ จากกำลังผลิตที่มีอยู่ 825 เมกะวัตต์ รวมทั้งควบคุมปริมาณการระบายก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่ปล่อยออกจากโรงไฟฟ้าเครื่องที่ 1-13 รวมกันแล้วไม่เกิน 15 ตันต่อชั่วโมง
    2. ให้มีถ่านลิกไนต์กำมะถันต่ำสำรองไว้ใช้ที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะตลอดเวลา โดยใช้ถ่านซึ่งจัดซื้อจากเอกชน มีส่วนผสมของซัลเฟอร์น้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ซัลเฟอร์ และถ่านคุณภาพดีของเหมือง แม่เมาะซึ่งมีส่วนผสมของซัลเฟอร์น้อยกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ซัลเฟอร์
    3. ติดตั้งระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศที่มีอยู่ให้เป็นระบบ REAL TIME AIR QUALITY MONITORING และเชื่อมโยงผลการตรวจวัดให้สามารถอ่านค่าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่ห้องศูนย์ควบคุมการเดินเครื่องของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ และโรงพยาบาลแม่เมาะ
    4. กรมควบคุมมลพิษจะสรุปค่าก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่จุดวัดต่างๆ ส่งให้ราษฎรทราบโดยผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สัปดาห์ละ 1 ครั้ง

http://maemoh.egat.com/index_maemoh/index.php?content=environment&topic=4

การติดตั้งเครื่องกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ดำเนินการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากโครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ตั้งแต่ปี 2520 เป็นต้นมา เพื่อควบคุมผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากโครงการฯ ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (สวล.) ในปี 2533 กฟผ. ได้วางแผนให้โรงไฟฟ้าแม่เมาะเครื่องที่ 12-13 มีระบบกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (Flue Gas Desulfurization System) แบบเปียก (Wet Limestone Process) ซึ่งมีประสิทธิภาพในการกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์สูงประมาณ 92% โดยดำเนินการติดตั้งระบบกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ฯ ไปพร้อมกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2538 ขณะเดียวกันได้ศึกษาความเหมาะสมในการติดตั้งเครื่องกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ฯ สำหรับโรงไฟฟ้าแม่เมาะเครื่องอื่น ๆ ที่ได้เดินเครื่องจ่ายไฟเข้าระบบแล้ว

ในเดือนตุลาคม 2535 ได้เกิดมลภาวะทางอากาศที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะ สาเหตุเนื่องมาจากสภาพอากาศที่แปรเปลี่ยนไปจากเดิมและสภาพอากาศปิด (Inversion) ในช่วงฤดูหนาว ทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนที่อาศัยอยู่รอบ ๆ โรงไฟฟ้า ตลอดจนทำให้เกิดความเสียหายต่อพืชและสัตว์เลี้ยง กฟผ. ได้ดำเนินการแก้ไขเพื่อลดผลกระทบของก๊าซซัลเฟอร์ฯ โดยลดกำลังผลิตของโรงไฟฟ้าลงเมื่อตรวจพบว่าค่าความเข้มข้นของก๊าซซัลเฟอร์ฯ เกินค่ามาตรฐานในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ในขณะเดียวกันเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาว กฟผ. ได้ดำเนินการติดตั้งระบบกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ฯ สำหรับโรงไฟฟ้าแม่เมาะเครื่องที่ 8-11 โดยเลือกระบบแบบเปียก (Wet Limestone Process) มี ประสิทธิภาพในการกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ฯ สูงประมาณ 95% มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2539

นอกจากนี้ กฟผ. ยังได้ว่าจ้างบริษัท KBN Engineering and Applied Sclences, Inc. แห่งสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ดำเนินการศึกษาควบคุมสิ่งแวดล้อมทางอากาศในบริเวณโรงไฟฟ้าแม่เมาะ และในขณะเดียวกัน กรมควบคุมมลพิษร่วมกับ กฟผ. โดยการสนับสนุนด้านงบประมาณจาก United States Agency for International Development (USAID) ได้ว่าจ้างบริษัท Sargent & Lundy Engineers จากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นผู้ดำเนินการศึกษาโครงการ "Development of System Wide Emission Control Strategies Application to Mae Moh Power Plant" ผลการศึกษาสรุปได้ว่า ค่ามาตรฐานของปริมาณความเข้มข้นของก๊าซซัลเฟอร์ฯ ในคาบเฉลี่ย 1 ชั่วโมงที่เหมาะสมสำหรับโรงไฟฟ้าแม่เมาะ คือ 1,300 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และควรติดตั้งระบบกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ฯ แบบเปียก (Wet Limestone Process) สำหรับโรงไฟฟ้าแม่เมาะเครื่องที่ 4-7

ระบบกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ฯ ระบบแบบเปียกนี้จะใช้หินปูนเป็นวัตถุดิบ เพื่อทำปฏิกิริยากับก๊าซซัลเฟอร์ฯ โดยใช้หินปูนจากบริเวณตอนใต้ของดอยผาตูบ ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ ใกล้กับบริเวณโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ระบบกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ฯ สำหรับโรงไฟฟ้าแม่เมาะเครื่องที่ 4-7 มีความต้องการใช้หินปูนประมาณ 34 ตันต่อชั่วโมง หรือเฉลี่ย 0.24 ล้านตันต่อปี รวมปริมาณความต้องการใช้หินปูนสำหรับโรงไฟฟ้าแม่เมาะเครื่องที่ 4-13 ประมาณ 127 ตันต่อชั่วโมง หรือเฉลี่ย 0.89 ล้านตันต่อปี

งานติดตั้งระบบกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ฯ นี้มีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งรวมทั้งสิ้นประมาณ 3,230 ล้านบาท หรือ 127 ล้านเหรียญสหรัฐ ใช้เวลาในการดำเนินงานหลังจากได้รับอนุมัติจากรัฐบาลประมาณ 40 เดือน คาดว่าจะแล้วเสร็จสามารถเดินเครื่องระบบกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ฯ สำหรับโรงไฟฟ้าเครื่องที่ 6-7 ได้ในเดือนมิถุนายน 2542 และสำหรับโรงไฟฟ้าเครื่องที่ 4-5 ได้ในเดือนสิงหาคม 2542

ในกรณีที่ใช้ถ่านลิกไนต์ที่มีปริมาณกำมะถันเฉลี่ย 2.8% ระบบกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ฯ สำหรับ โรงไฟฟ้าแม่เมาะเครื่องที่ 4-7 สามารถกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ฯ ได้ประมาณปีละ 140,000 ตัน หรือ 2,268,000 ตัน ตลอดอายุการใช้งานของโรงไฟฟ้า ซึ่งช่วยบรรเทาและแก้ไขการเกิดมลภาวะทางอากาศจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะได้ โดยสามารถควบคุมปริมาณความเข้มข้นของก๊าซซัลเฟอร์ฯ ให้มีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมกำหนดไว้


2. ข้อมูลจากเว็บของ Green Peace

"Hazardous emissions from Thai coal-fired power plants: Toxic and potentially toxic elements in fly ashes collected from the Mae Moh and Thai Petrochemical Industry coal-fired power plants in Thailand, 2002"

http://www.greenpeace.to/publications/Thai%20fly%20ash%20report%20FINAL.pdf


CONCLUSIONS
The production of power through the combustion of coal at the Mae Moh and TPI coal power plants in Thailand produces fly ash contaminated with a range of toxic and potentially toxic elements. Due to the very large quantities of coal burned and fly ash produced, each plant liberates many tonnes of these elements each year (see Table 5).

Particles emitted to the environment either directly with the flue gases, or as a result of inadequate fly ash storage, pose a threat to human and animal health. For the finest particles, the health impacts due to their very small size are combined with the tendency for these particles to contain the highest concentrations of toxic and potentially toxic elements.

Despite the use of efficient end-of-pipe pollution control devices such as electrostatic precipitators (ESPs) and ionizing wet scrubbers, appreciable quantities of potentially toxic
elements bound to fly ash particles and in gaseous form will be released to the atmosphere along with flue gases. The release of certain gaseous forms of arsenic and mercury tends to
be lower where ionizing wet scrubbers are employed. These reductions in atmospheric emissions are, however, reflected in higher concentrations in other wastestreams, including
fly ash and scrubber wastes. The elements contained in the fly ashes have the ability to leach from them, and thus enter
the environment where they can accumulate in sediments and soils. In addition, many of these elements have the potential to bioaccumulate.

The use of fly ash in cement production will not prevent the release of significant quantities of heavy metals and other toxic elements into the environment due to weathering and erosion over time. Mechanical operations on cement that has been produced using coal fly15 ash as a raw material may produce dusts containing respirable contaminated particles, as well as hastening elemental leaching through weathering processes.

Treatment processes to reduce the quantities of hazardous elements in the fly ashes will simply result in the production of additional contaminated wastestreams.

Ongoing use of coal combustion for power production will result in future releases of toxic and potentially toxic elements to the environment. This can only be avoided through the
cessation of coal combustion and the implementation of sustainable production technologies such as solar- and wind-power generation