กำลังพยายามทบทวนว่าตัวเองได้เคยเดินป่ากับเขาจริงๆสักกี่ครั้ง แต่ละครั้งมีประสบการณ์อย่างไร
ุ่
ย้อยหลังไปไกลสุด ตอนเด็กๆ ช่วง ม.ต้น โรงเรียนพาไปเข้าค่ายเนตรนารีที่โรงเรียนบ้านพรรั้ง กลางคืนมีการออกไปเดินรอบค่ายมีด่านต่างๆ เช่นเดินข้ามน้ำ เดินบนสะพานเชือก กว่าจะกลับมาค่ายก็เหนื่อย แต่เข้าใจว่าไม่ได้อันตรายอะไร เขาคงเซฟไว้ประมาณหนึ่ง พอวันรุ่งขึ้นเป็นวันเดินทางไกลขึ้นเขาด้านหลังโรงเรียน เดินไปจามทางขึ้นเขาไปเรื่อยๆ ตอนนั้นคงเหนื่อยน่าดู แต่กลับมาดูพื้นที่ทีหลังก็รู้สึกว่าไม่ได้หนักหนาอะไร จำได้ว่าข้าวเที่ยงเป็นข้าวกับปลากระป๋องและไข่ต้ม นั่งดูวิวจากบนเขา พื้นที่นั่งเป็นหินบริเวณกว้าง เป็นทริปที่ชอบทริปหนึ่ง
ทริปเดินป่าถัดไปเป็นทริปขึ้นภูกระดึงตอน ม.ุ6ไปกับเพื่อนๆโรงเรียนช่วงเดือนตุลาคม มีอาจารย์ผู้ชายที่สอนกีฬาพาไป เรานั่งระไปลงที่ผานกเค้าแล้วเริ่มเดินขึ้นเขา จุดแรกที่พักคือซำแฮ่ก แฮ่กจริงๆ กว่าจะเดินขึ้นถึงหลังแปที่เป็นบริเวณพื้นราบบนเขาก็ตกบ่าย เราได้พักที่บ้านพักหยาดน้ำค้างรึอะไรซักอย่างชื่อแบบนี้ อากาศหนาวมาก ข้างบนมีร้านค้า มีเต้นท์นอนเรียงเป็นแถว มีความรู้สึกว่าคนมาก แต่ถ้าเทียบกับสมัยนี้คงถือว่าน้อย จำได้ว่าเดินเกาะกลุ่มกันเวลาไปดูดวงอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก ตอนเช้าก็ไปดูดวงอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น บนภูกระดึงมีขุดชมวิวที่ทุกคนต้องไปถ่ายรูปกับชะง่อนผาและต้นสน รูปออกมาจะสวยมาก แต่ตอนเดินไปถ่ายรูปก็เสียวเหมือนกัน ทริปนั้นเป็นทริปที่ได้เพื่อนใหม่มาด้วยชื่อ พี่เป็ด
ทริปต่อมาเป็นทริปเขาหลวง เดือนเมษายน 2000 เหตุที่ไปเพราะมาอยู่ที่นครศรีธรรมราชก็สมควรไปขึ้นเขาที่สูงที่สุดของภาคใต้ โชคดีที่มีทีมจะขึ้นไปก็ขอตามเขาไปด้วย ทริปนี้มีประมาณสิบกว่าคนรวมสมาชิกวลันลักษณ์กับโรงพยาบาลท่าศาลา มีหนุ่ยธีรพันธ์นำทีมไป เพื่อนๆที่ไปด้วยมี อ. โอ๊บ พี่ต่าย หลานพี่ต่าย พี่เอ จิตติมา น้อง อภิรยา ฉิมศูนย์บรรณ เป็นต้น ขาขึ้นเริ่มตอนเย็น ไปแวะกินข้าวที่ศาลาแถวน้ำตกวังไม้ปัก แล้วเดินขึ้นเขาไปค้างที่ขนำสุดท้าย ออกเดินทางประมาณหนึ่งทุ่ม ประมาณสองทุ่มเศษก็ได้พักนอน ตอนเช้า ลุกขึ้น กินอาหารเช้าเสร็จก็เดินขึ้นเขา กว่าจะถึงยอดเขาก็เย็นๆ กลางคืนนอนเต๊นท์คิดว่าจะหนาวมาก แต่ก็ไม่หนาว ตอนเช้าตื่นขึ้นมา ถ้าจะดูวิวต้องปีนต้นไม้ขึ้นไปดู ขากลับน่ากลัวกว่าขาขึ้น เพราะทางชัน เดินจนขาแพลง โชคดีว่ามีน้องอภิรยาเป็นอาจารย์พยาบาลก็ช่วยพันหัวเข่าให้ ต้องใช้ไม้เท้าเดิน ยิ่งช่วงผ่านน้ำตกยิ่งน่ากลัว ตอนจาขึ้นมามองไม่เห็นทาง เดินตามเขาเรื่อยๆ แต่ขาลงมองเห็นว่าทางน่ากลัว ถ้าพลาดมีเจ็บ ก็เลยต้องระวังมาก ช่วงสองกิโลสุดท้าย รถมอเตอร์ไซต์ขึ้นไปรับได้ ไม่งั้นคงอาการปนักกว่านี้ ลงมาแล้วเมื่อยตัวไปอีกอาทิตย์นึง
ทริปน้ำตกกรุงชิง จำไม่ได้ว่าไปช่วงปีไหน แต่น่าจะประมาณ 2541-2544 เป็นความพยายามที่จะไปให้ถึงน้ำตกหนานแสนห่าที่อยู่ในแบงค์พัน รถจะเข้าไปได้ถึงที่ทำการอุทยาน จากนั้นจะมีเทรลทางเดินซิเมนต์ไปสองกิโล ถัดจากนั้นอีกสองกิโลจะเป็นทางดิน ไปถึงบริเวณน้ำตก ตัวน้ำตกจะอยู่ด้านล่าง ต้องปีนลงไปอีก มีลวดสลิงให้เหนี่ยวตัวเดินลงไป น้ำตกสวยสมที่ตั้งใจที่มา ได้เล่นน้ำตกพอหายเหนื่อยแล้วก็กลับมาเหนื่อยต่ออีกชั่วโมงกว่าเพื่อเดินกลับ ที่กรุงชิงจะเป็นเส้นทางเดินป่าที่มาเดินบ่อยที่สุด มีไม้ใบไม่ดอก ให้ดูระหว่างทาง เช่นเคยไปเดินดูกล้วยไม้กินซาก ดูกล้วยไม้วิลาสินี ดูดอกเอื้องพร้าว ดอกกระทือ ดอกปุด ฯลฯ เป็นป่าที่สมบูรณ์ดี แต่เหตุผลหลักที่ไปมักจะเป็นการไปดูนก มีนกดีๆมากทีเดียว เช่น นกปากกบพันธ์ชวา นกปากกว้างเล็ก นกเขียวปากงุ้ม นกเขนน้ำคิ้วขาว ฯลฯ
ทริปทุ่งใหญ่นเรศวร
ทริปดอยอินทนนท์ เดินแอ่งแม่กา แล้วไปเดิน กิ่วแม่ปาน
ทริปเขานัน
ทริปเขารามโรม
ทริปแก่งกระจาน เข้าบ้านกร่าง
ทริปเขานอจู้จี้ เทรล C, D สระมรกต
เยอะเนอะ ว่างๆค่อยมาใส่ข้อมูลเพิ่ม ทีละนิดๆ
No comments:
Post a Comment