Sunday, April 25, 2010

The Red Violin หนังดี...แต่ทำไมเพิ่งได้ดูก็ไม่รู้

วันนี้ดูหนังเรื่อง The Red Violin ไวโอลินเลือด ของ Francois Girard เป็นหนังที่ได้รางวัล Best Music by John Corigliano ในการชิง Academy award เป็นหนังปี 1998( และฉันก็เพิ่งได้ดูในปี 2010 เนี่ยนะ) ทีแรกก็เฉยๆ หยิบมาดูคิดว่าเป็นหนังลึกลับด้วยซ้ำ แต่อ่านคำบรรยายภาษาไทยด้านหลังเขียนว่า นี่คือหนังสำหรับคนรักดนตรี และเมื่อดูจบแล้วก็รู้สึกดีจริงๆด้วย ไม่ได้ถึงกับตื้นตันน้ำตาไหลแต่รู้สึกอยากติดตามอยากรู้เรื่องต่อเนื่อง

พล็อตเรื่องเกี่ยวกับไวโอลินตัวหนึ่งถูกสร้างโดยช่างทำไวโอลินชาวอิตาลีเมื่อสามศตวรรษที่แล้วในปี ค.ศ.1681 เพื่อเตรียมให้กับลูกที่กำลังจะคลอดของเขา โชคร้ายที่ภรรยาของเขาเสียชีวิตระหว่างคลอด ไวโอลินตัวนี้จึงไม่ได้เป็นไปตามความประสงค์ของผู้สร้าง เวลาผ่านไปไวโอลินตัวนี้ถูกบริจาคให้โบสถ์ที่เลี้ยงเด็กกำพร้าในออสเตรีย มีเด็กหลายคนได้เล่นต่อๆกันมา จนมีเด็กอัจฉริยะคนหนึ่งได้เล่น และมีนักดนตรีที่เห็นแววพาไปที่เวียนนาเพื่อแสดงให้เจ้าชายคัดเลือกสำหรับร่วมในการเดินทางไปรัสเซียของพระองค์ โชคร้ายอีกครั้งที่เด็กคนนี้เสียชีวิตต่อหน้าพระพักตร์ด้วยความเครียดและเดิมเป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว ไวโอลินถูกฝังพร้อมศพ 

แต่มีหัวขโมยได้มาขุดหลุมศพนำไวโอลินไป ครั้งนี้ไวโอลินตัวนั้นถูกเล่นต่อๆกันในกลุ่มยิปซีเร่ร่อน จนเมื่อมาถึงอังกฤษ เจ้าของที่ดินที่ยิปซีมาพักซึ่งเป็นนักไวโอลินที่มีสไตล์เฉพาะตัวในสมัยนั้นได้เห็นและนำไวโอลินนี้ไปใช้ในการแสดงของเขา การแสดงของเขาต้องมาจากแรงบันดาลใจที่เกิดจากหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเธอเองเป็นนักประพันธ์ที่ต้องการแรงบันดาลใจในการเขียนเช่นกัน เธอจึงเดินทางไปรัสเซีย และกลับมาพบว่าเขาหาแรงบันดาลใจจากหญิงอื่นเมื่อไม่มีเธอ เธอยิงไวโอลินตัวนั้นเสียหาย แล้วจากไป เขาฆ่าตัวตายในที่สุดเพราะสูญเสียแรงบันดาลใจและอ่อนแอเพราะฝิ่น 

ไวโอลินถูกนำข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงเมืองจีนที่เซี่ยงไฮ้โดยคนรับใช้ชาวจีนของเขาที่กลับwxเมืองจีนและนำไวโอลินตัวนั้นไปขายในร้ายขายของเก่า ไวโอลินถูกขายต่อให้แม่ลูกชาวจีนคู่หนึ่ง ลูกสาวเมื่อเติบโตขึ้นตกอยู่ในช่วงปฏิวัติการปกครองของจีน เครื่องดนตรีตะวันตกจะถูกทำลาย ไวโอลินถูกมอบให้อาจารย์สอนดนตรีผู้เก็บเครื่องดนตรีหลบซ่อนการทำลายของเรดการ์ดจนสิ้นสุดยุคประธานเหมา ในที่สุดรัฐบาลจีนได้มอบคอลเลกชั่นเครื่องดนตรีเหล่านี้กลับมาสู่ประเทศตะวันตก จนเข้าสู่การประมูลในเมืองมอลทรีลออลในแคนาดา ฉากการประมูลเป็นฉากนำเรื่องจากนั้นหนังตัดเรื่องไปมาระหว่างแต่ละช่วงเวลาเดินทางของไวโอลิน ซึ่งตัดภาพได้เรียบรื่นดีมาก 

แล้วเรื่องมาเฉลยกันตอนจบว่าช่างทำไวโอลินได้นำเลือดของภรรยาผู้เสียชีวิตมาทาสีไวโอลินโดยใช้แปรงที่ทำจากผมของเธอ ชื่อเรื่องภาษาไทยที่ตั้งชื่อว่า ไวโอลินเลือด จึงสื่อเนื้อหาส่วนนี้เข้าไปด้วย

โดยส่วนตัวชอบเรื่องนี้ทั้งฉากที่สวยงาม ดนตรีประกอบนั้นยอดเยี่ยม ฟังแล้วอยากเล่นไวโอลินตาม เนื้อเรื่องแต่ละช่วงแสดงให้เห็นยุคสมัยที่เปลี่ยนไปและลักษณะของภูมิภาคที่ต่างกัน

เกี่ยวกับไวโอลิน จะเห็นว่าเรื่องเริ่มที่ Cremona ซึ่งเป็นเมืองอยู่ทางเหนือของอิตาลี นับเป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องดนตรีโดยเฉพาะไวโอลินตระกูลต่างๆ ได้แก่ Amati, Guarneri และ Stradivari ( ในเรื่องใช้ชื่อ Nicolò Bussotti เป็นช่ทำไวโอลิน) เรื่องนี้ว่ากันว่าได้รับแรงบันดาลใจจากไวโอลินของ Stradivarius ที่ชื่อ The Red Mendelssohn สร้างในปี ค.ศ.1721 ปัจจุบันเป็นของนักไวโอลินชื่อ Elizabeth Pitcairn ผู้ได้ไวโอลินตัวนี้เป็นของขวัญวันเกิดซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 1.7 ล้านเหรียญจากการประมูลกับคริสตี้ที่ลอนดอน ชื่อ "The Red Mendelssohn"มาจากแถบสีแดงบนต้านขวาบนของตัวไวโอลินซึ่งไม่มีใครทราบที่มาของแถบนั้นเช่นกัน

มีนิยายอีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับไวโอลินของสตราดิวาเรียสคือเรื่อง Antonietta เขียนโดย John Hersey ในปี 1991 Antonietta เป็นทั้งชื่อนิยายและเป็นชื่อของไวโอลินของ Stradivarius ที่สร้างในปี 1699 ในช่วงที่เขาเสียภรรยาและได้ตกหลุมรักกับสาวน้อยคนหนึ่งชื่อ Antonia
Links
1. http://www.youtube.com/watch?v=mHfgRgyxQoA&feature=related เพลงในเรื่องตอนที่ Weiss เสียชีวิตแล้วไวโอลินไปอยู่กับยิปซี
2. http://www.youtube.com/watch?v=2K5q89S_ELg Red Violin Suite with the KCO
A clip of Elizabeth Pitcairn performing The Red Violin Suite for solo violin, strings, harp and percussion by John Corgliano at the World Financial Center Winter Garden in New York City with the Knickerbocker Chamber Orchestra of New York, conducted by music director Gary S. Fagin. 11/17/09

No comments: