Thursday, April 22, 2010

สัปดาห์แห่งความวุ่นวายของสายการบินยุโรป



สัปดาห์ที่แล้วยุโรปทั้งทวีปเผชิญวิกฤตการณ์ด้านการบินอย่างรุนแรง สาเหตุเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟใต้ธารน้ำแข็งชื่อ เอยาฟจาลาโยคูลล์ อยู่ทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ในวันที่ 14 เมษายน ทำให้เกิดเถ้าฟุ้งกระจายปกคลุมน่านฟ้าทั่วยุโรป สนามบินในยุโรปต้องปิดดำเนินการทั้งหมดในบริเวณที่เถ้ากระจายไปถึง และเปิดดำเนินการบางสายการบินในบางประเทศในวันที่ 20 เมษายน และในวันนี้ (22 เมษายน) ยูโรคอนโทรล" หน่วยงานควบคุมการจราจรทางอากาศของยุโรป คาดหมายว่าการจราจรทางอากาศน่าจะกลับสู่ภาวะปกติเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่มีผู้โดยสารตกค้างจำนวนมากที่ยังรอเดินทาง และคงต้องใช้เวลาพอควรกว่าจะกลับสู่สภาพปกติ ว่ากันว่ามูลค่ารายได้ที่สูญเสียของสายการบินต่างๆสูงถึง 1.7 พันล้านเหรียญ (£1.1bn)

คนในยุโรปเดือดร้อนกันมาก มีผู้โดยสารตกค้างอยู่ทุกแห่งทั่วโลกเพราะไม่สามารถเดินทางเข้ายุโรปได้ บางคนต้องเดินทางหลายต่อด้วยพาหนะหลากรูปแบบเพื่อกลับบ้าน เป็นสภาพที่น่าเห็นใจมาก และไม่รู้จะโทษใครดี
ปัญหาจากเถ้าไม่ใช่เรื่องทัศนวิสัย แต่เป็นเรื่องที่เถ้านั้นประกอบด้วยฝุ่นที่เป็นเถ้าภูเขาไฟ แก้ว ซึ่งอาจเข้าไปทำให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์ได้ เมื่อเหตุการณ์สงบลง มีบางฝ่ายได้มาแสดงความเห็นว่า การตัดสินใจครั้งนี้ใช้ฐานความคิดจากทฤษฎีแทนที่จะเป็นข้อเท็จจริง

ในประเทศอังกฤษซึ่งดูจะเป็นประเทศที่เข้มงวดที่สุดในการปิดน่านฟ้าครั้งนี้ สนามบินถูกปิดไปหกวัน เปิดให้เครื่องบินจอดวันแรกคืนวันอังคารที่ 20 เมษายน

ในช่วงเวลาเดียวกัน ประธานาธิบดีโปแลนด์ เลคช์ คาซีสกี ประสบเหตุเครื่องบินตกขณะร่อนลงจอดในเมืองสโมเลนก์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย ในวันที่ 10 เมษายน พิธีศพถูกจัดขึ้นในช่วงเวลาที่สนามบินในยุโรปถูกปิด ก็เลยกลายเป็นเรื่องรองไปเมื่อเทียบกัน

ในฐานะประชาชนทวีปเอเชีย ซึ่งไมได้เดือดร้อนกับวิกฤตการณ์นี้มากนักถ้าเทียบกับเรื่องของพวกเสื้อแดง เพราะอยู่ไกลและไม่ได้เดินทาง แต่มีประชาชนจากยุโรปที่จะมาเยี่ยมเยียนแต่มาไม่ได้เพราะไม่มีเครื่องบินให้บินมา ..... สรุปว่าใครๆในโลกก็ได้รับผลจากภูเขาไประเบิดครั้งนี้กันถ้วนทั่วทีเดียว

No comments: