Wednesday, March 12, 2014

Missing Malasia Airlines plane

กรณีเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์อยู่ๆก็ขาดการติดต่อไปแล้วหายไปอย่างลึกลับตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 2557 จนถึงวันนี้(12 มีนาคม 2557)เป็นวันที่ 4 ของการสูญหายก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆที่จะทำให้พบเครื่องบินลำนั้น

เที่ยวบินนี้บินจาก KL จะไปปักกิ่ง เ็นไฟล์ท MH370 บรรทุกผู้โดยสาร 239 คน ส่วนใหญ่เป็นคนจีน
การค้นหาเครื่องบินลำนี้เป็นปฏิบัติการใหญ่ มีหลายชาติเข้าร่วมการค้นหา จนค่อนข้างแปลกใจว่าทำไมให้ความสนใจกันเยอะมาขนาดนี้  อาจเพราะมีเรื่องที่ห่วงกันว่าเครื่องบินถูกจู่โจม เพราะพบว่าอย่างน้อยมีผู้โดยสารสองคนใช้พาสปอร์ตปลอมที่มีผู้ทำหายในประเทศไทยเมื่อปี-สองปีก่อน คนถือพาสปอร์ตเป็นคนอิรักทั้งคู่ น่าสนใจทีเดียว

ตอนนี้ก็พยายามค้นหากันต่อไป  ดูแล้วคิดถึงซีรี่ส์เรื่อง Lost ขึ้นมาทันที

16 มีนาคม 2557 ในที่สุดก็มีข่าวออกมาอีกกระแสว่าเครื่องบินถูกไฮแจ็ค แต่จะไปที่ไหนยังไม่ทราบ

===================================================================

" http://edition.cnn.com/2014/03/10/world/asia/malaysia-airlines-knowns-unknowns/

Here's a summary of what we know and what we don't know about Flight 370, which was carrying 239 people when it disappeared from radar screens over Southeast Asia.
THE FLIGHT PATH
What we know: The Boeing 777-200ER took off from Kuala Lumpur, the Malaysian capital, at 12:41 a.m. Saturday (12:41 p.m. Friday ET). It was scheduled to arrive in Beijing at 6:30 a.m. the same day, after a roughly 2,700-mile (4,350-kilometer) journey. But around 1:30 a.m., air traffic controllers in Subang, outside Kuala Lumpur, lost contact with the plane over the sea between Malaysia and Vietnam. A senior Malaysian air force official said Tuesday the flight was hundreds of miles off course, traveling in the opposite direction from its original destination and had stopped sending identifying transponder codes before it disappeared.
Quest: They have 'no idea where plane is'
Do stolen passports indicate terrorism?
A deeper look at Boeing 777s
What we don't know: What happened next. The pilots did not indicate any problem to the tower, and no distress signal was issued. Malaysian military officials cite radar data as suggesting the plane might have turned back toward Kuala Lumpur. But the pilots didn't tell air traffic control that they were doing so. And we don't know why the plane would have turned around. While one expert tells CNN the plane's deviation could mean someone deliberately turned the plane around, another expert says power failure could have disrupted the main transponder and its backup, and the plane could have flown for more than an hour.
THE PASSENGERS
What we know: There were 239 people on board: 227 passengers and 12 crew members. Five of the passengers were younger than 5 years old. Those on board included a number of painters and calligraphers, as well as employees of an American semiconductor company.
According to the airline, the passengers' 14 nationalities spanned the Asia-Pacific region, Europe and North America. Passengers from China or Taiwan numbered 154, followed by Malaysians, at 38. There were three U.S. citizens on the plane. Four passengers had valid booking to travel but did not show up to for the flight, according to the airline. "As such, the issue of off-loading unaccompanied baggage did not arise," it added Tuesday in a prepared statement.
What we don't know: Why two people who boarded the plane were using stolen passports, officials say.
THE PASSPORT MYSTERY
What we know: The tickets for the two people who used stolen Italian and Austrian passports were bought Thursday in Thailand, according to ticketing records. Both tickets were one-way and had itineraries continuing on from Beijing to Amsterdam. One ticket's final destination was Frankfurt, Germany; the other's was Copenhagen, Denmark. The passports were stolen in Thailand from the two people to whom they had been issued -- the Austrian's was taken last year and the Italian's in 2012.
Interpol identified the men using the stolen passports as Pouri Nourmohammadi, 18, and Delavar Seyed Mohammad Reza, 29, both Iranians. Malaysian police believe Nourmohammadi was trying to emigrate to Germany using the stolen Austrian passport. The men entered Malaysia on February 28 using valid Iranian passports.
What we don't know: Whether the stolen passports have any connection to the plane's disappearance.
Would-be immigrants have used fake passports to enter Western countries in the past.
THE SECURITY SCREENING
What we know: Interpol says the passports were listed as stolen in its database. But they had not been checked from the time they were entered into the database and the time the plane departed. Interpol Secretary General Ronald K. Noble said it was "clearly of great concern" that passengers had been able to board an international flight using passports listed as stolen in the agency's database.
What we don't know: Whether the passports had been used to travel previously. Interpol says it's "unable to determine on how many other occasions these passports were used to board flights or cross borders." Malaysian authorities are investigating the security process at the airport in Kuala Lumpur, but insisted it meets international standards.

How does a jet go missing? "

=====================================
ส่วนข้อมูลนี้จาก FB ของ Malaysia airline
[#MASalert] แถลงการณ์อย่างเป็นทางการของเหตุการณ์ MH370 ณ เวลา 11 : 15 am (ตามเวลาท้องถิ่นในมาเลเซีย) วันที่ 11 มี.ค. 14

นับเป็นวันที่ 4 แล้วที่เครื่องบินยังไม่ถูกค้นพบ ขณะนี้ทางทีมค้นหาและกู้ภัยได้ขยายขอบเขตการค้นหาเพิ่มเติมจากบริเวณเส้นทางการบินของไฟล์ทดังกล่าว

โดยให้น้ำหนักไปทางทิศตะวันตกของคาบสมุทรมาเลเซีย บริเวณช่องแคบมะละกา ซึ่งเป็นจุดที่ MH370 พยายามเลี้ยวกลับสู่เซปัง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ ในทุกๆ ด้าน โดยไม่ทิ้งความน่าจะเป็นอื่นๆ

ภารกิจดังกล่าวยังคงได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรนานาชาติ ทั้ง ออสเตรเลีย , จีน , ไทย , อินโดนีเซีย , สิงคโปร์ , เวียดนาม ,
ฟิลิปปินส์และสหรัฐอเมริกา โดยปฏิบัติการณ์ครอบคลุมทั้งภาคอากาศด้วยเครื่องบินค้นหา 9 ลำ และเรือค้นหา 24 ลำ ปฏิบัติการณ์เหนือน่านน้ำ

นอกจากปฏิบัติการณ์ทางทะเล การค้นหาทางภาคพื้นดินได้เริ่มต้นแล้วด้วยเช่นกัน ซึ่งทางทีมค้นหาและกู้ภัยได้วิเคราะห์เศษชิ้นส่วน และตัวอย่างคราบน้ำมันที่พบแล้วยืนยันว่าไม่ใช่ของ MH370

เครื่องบินโบอิ้งรุ่น 777-200 หมายเลขไฟล์ท MH370 ได้รับการบำรุงรักษาเมื่อ 10 วันที่แล้ว ณ ท่าอากาศยานแห่งชาติกัวลาลัมเปอร์
ก่อนขึ้นบินใน วันที่ 8 มี.ค. 2014 และมีกำหนดตรวจเช็คในรอบต่อไปคือ วันที่ 19 มิ.ย. 2014 จากการบำรุงรักษาที่ผ่านมา ไม่พบรายงานปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น

เครื่องบินลำดังกล่าวได้ส่งมอบมายังสายการบินฯ เมื่อปี 2002 และมีบันทึกการบินอยู่ที่ 53,465.21 ชั่วโมงรวมจำนวนรอบบินที่ 7525 รอบ

เครื่องบินของทางสายการบินฯ ทุกลำได้มีการติดตั้งระบบสื่อสารระหว่างเครื่องบินและสถานีภาคพื้นดิน Aircraft Communications Addressing and Reporting System (ACARS)ซึ่งจะทำการส่งข้อมูลโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ดี เราไม่ได้รับข้อมูลการแจ้งใดๆ จากตัวเครื่อง

ขณะนี้ทางสายการบินฯ มีภารกิจสำคัญในการดูแลครอบครัวผู้โดยสาร โดยมีกลุ่มจาก Mercy Malaysia , กลุ่มสมาชิก Tzu Chi และอื่นๆ
เข้ามาให้บริการช่วยเหลือทางด้านจิตใจแก่ครอบครัวผู้โดยสารและลูกเรือ

หน่วยงานจากรัฐบาลจีนได้ประสานงานกับสายการบินมาเลเซีย โดยส่งตัวแทนจากสถานฑูตจีนเข้าประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการณ์ฉุกเฉิน และช่วยเหลือครอบครัวผู้โดยสารในกัวลาลัมเปอร์

ที่กรุงปักกิ่ง นายกรัฐมนตรีจีนได้แต่งตั้งตัวแทนพิเศษ ชื่อคุณ Tan Sri Ong Ka Ting ซึ่งจะเข้ามาช่วยประสานงานกับทางสายการบินฯ ด้วย

ทางสายการบินฯ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวผู้โดยสาร และเราจะทำทุกๆ อย่างที่สามารถทำได้ ในขณะนี้

ทั้งอำนวยความสะดวก และการเยียวยาทางด้านจิตใจกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เราเข้าใจในความกังวลของครอบครัวที่รอคอยข่าวของบุคคลอันเป็นที่รัก

ถึงครอบครัวลูกเรือทั้งหมดบน MH370 พวกเขาเปรียบเสมือนครอบครัวของทางสายการบินฯ ด้วยเช่นกันซึ่งเราเองก็รู้สึกเจ็บปวดและวิตกกังวลต่อเหตุการณ์เลวร้ายนี้เช่นกัน

สายการบินฯ ขอเน้นย้ำว่าได้นำเสนอข้อมูลต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับไฟล์ท MH370 ด้วยความโปร่งใสผ่านสื่อต่างๆ .

No comments: