Sunday, January 20, 2013

ไฟศิลป์....ของแวนโก๊ะห์

วันนี้อ่านหนังสือเรื่อง ไฟศิลป์ เป็นชีวประวัติที่เขียนแบบนิยายของวินเซนต์ แวนโก๊ะห์ จิตรกร Post-Impressionist ชื่อดังชาวดัชต์ หนังสือเล่มนี้แปลและเรียบเรียงจากเรื่อง Lust for Live ของ Irving Stone แปลโดยคุณ กิติมา อมรทัต มีความรู้สึกว่าเพิ่งเคยผ่านตาเรื่องชื่อเดียวกันนี้ไม่นานนี่เอง แต่เมื่อดูประวัติการตีพิมพ์ เรื่องนี้ถูกตีพิมพ์ใน สตรีสารรายสัปดาห์มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2516



ความที่ไม่ค่อยสนใจงานของแวนโก๊ะห์ ถึงจะรู้ว่าภาพเขาราคาแพงก็ตามก็เลยไม่ได้ติดตามอ่านเรื่องราวของเขา จนวันนี้มานั่งอ่านก็พบว่าชีวิตจิตรกรสมัยนั้นมักจะมาอารมณ์คล้ายๆกันคือ ทุ่มเท และแสวงหาความจริง ใช้ชีวิตสุดโต่ง อยู่อย่างยากจนเพื่อหาแรงบันดาลใจในการเขียน

เห็นงานของเขาชนิดที่ไม่ใช่งานดังๆยุคหลัง พบว่าจริงๆเขาก็สามารถวาดภาพแบบธรรมดา สมส่วน แบบชีวิตจริงได้ แต่งานที่เป็นตัวตนจะออกมาอีกแบบ แสดงว่าพื้นฐานของจิตรกรก็สำคัญ แวนโก๊ะห์ ก็ต้องเรียนวาดรูป เรียนอนาโตมี ศึกษาวรรณคดี ไม่ใช่แค่นึกอยากจะเป็นจิตรกร แล้วบอกว่าตัวเองมีพรสวรรค์แล้วก็วาดออกมา

ชอบที่เขาพูดกับพ่อเมื่อพ่อถามว่าทำไมเขาต้องมานั่งอ่านหนังสือฝรั่งโง่ๆอยู่
..........."คุณพ่อครับ" เขาเงยหน้าขึ้นจากหนังสือ เลอแปร์โกริโยห์ แล้วตอบช้าๆ "ความรู้ในเรื่องการเขียนรูปนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะหัดเขียนรูปคนรูปสัตว์และภูมิประเทศเท่านั้นหรอกครับ แต่มันต้องอาศัยการศึกษาจากวรรณคดีด้วย  ............

.........  แต่ผมไม่อาจเขียนรูปคนรูปสัตว์โดยไม่รู้เรื่องโครงกระดูก กล้ามเนื้อ และเส้นเอ็นภายในให้ทั่วหมดเสียก่อน  ผมจึงไม่อาจเขียนรูปหัวคนได้ โดยไม่รู้ว่ามีอะไรเคลื่อนไหวอยู่ภายใน อยู่ในสมองและอยู่ในวิญญาณของคนคนนั้นเสียก่อนเหมือนกัน  ในการเขียนรูปชีวิตนั้นผู้เขียนจะต้องเข้าใจไม่ใช่แต่เพียงเรื่องร่างกายเท่านั้น แต่จะต้องเข้าใจถึงสิ่งที่มนุษย์นั้นรู้สึก และเข้าใจถึงโลกที่เขาอยู่ด้วย จิตรกรที่รู้จักแต่งานของตัวเองโดยไม่รู้อย่างอื่นเลยนั้นก็คือศิลปินเพียงผิวเผินเท่านั้น................
(เพิ่งสังเกตว่าในเรื่องเขาอ่านเรื่อง  HONORE DE BALZAC : LE PERE GORIOT ด้วย Van Gogh มีอายุอยู่ในช่วง 30 March 1853 – 29 July 1890  และ ฺBalzac มีอายุช่วง 20 May 1799 – 18 August 1850)
อีกตอนหนึ่งที่ชอบคือช่วงที่เขาไปอยู่กับน้องชาย ธีโอที่ปารีส เขาพบจิตรกรแนวอิมเพรสชั่นนิสต์ และช็อคกับรูปแบบสมัยใหม่ที่เขาไม่เคยใช้เทคนิคเหล่านั้น  จากเดิมที่เขาวาดภาพแบบดัชต์หม่นๆมัวๆ แล้วต้องมาใช้สีสดๆและเทคนิคแปลกๆ ทำให้เขาขาดความมั่นใจไปช่วงหนึ่ง และเกือบจะสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปด้วยการลอกเลียนแบบคนอื่น

ชีวิตของเขาน่าเศร้าทีเดียว และจบชีวิตลงโดยการฆ่าตัวตายในวัยสามสิบเจ็ดปี

อ่านจบไปพร้อมกับทำความรู้จักแวนโก๊ะห์มากขึ้น แต่ก็ยังไม่ชอบสไตล์งานของเขาอยู่ดี  :)

เพิ่งรู้อีกอย่างว่าเขาสนิทกับโกแกง   (ก็พอกัน .... งานของโกแกง ก็ไม่ชอบเหมือนกัน) ดีนะที่ศิลปินคบกันและเป็นกัลยาณมิตรกันเพื่ออุดมการณ์และงานดีๆของตัวเอง

Oct 2013
มาโน้ตเพิ่มเติมว่า ได้มีทริปไปเนเธอร์แลนด์ ได้ไป Rijkmuseum เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2013 ได้เห็นภาพของแวนโก๊ะหลายภาพ และได้เดินผ่านพิพิธภัณฑ์ Van Gogh ด้วย และ...อย่างที่คาด ไม่ได้เข้าไปชมค่ะ





No comments: