Monday, March 22, 2010

การอบรมการป้องกันและระงับอัคคีภัย





-->
22 มีนาคม 2553
วันนี้ศูนย์บรรณสารจัดฝึกอบรมการป้องอันและระงับอัคคีภัยประจำปี เป็นการทบทวน หลังจากที่เราได้อบรมในวันที่ 16-17 กุมภาพันธ์ 2552 ได้รับเกียรติจากทีมงานฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของเทศบาลนครศรีธรรมราช นำทีมโดยหัวหน้า เกียรติศักดิ์ เทวเดช และทีมครูฝึกอีก 3 คน ที่เคยมาเมื่อปีที่แล้ว วันนี้เป็นการอบรมวันเดียวเพราะถือว่าเป็นการทบทวน
คุณเกียรติศักดิ์เริ่มจากให้ความรู้เกี่ยวกับภาพรวม และบอกแผนการอบรมว่าช่วงบ่ายจะมีการซ้อมใช้เครื่องดับเพลิงและทำการอพยพหนีภัย (ปกติควรมีพนักงานได้รับการอบรมไม่ต่ำกว่า 40% วันนี้บุคลากรศูนย์ลงชื่อเข้าฟัง 33 คน )
ปัญหาหลักเมื่อเกิดอัคคีภัยคือ ความร้อน กลุ่มควันและพฤติกรรมของคน
หลักในการจัดการคือ 1. หลักการป้องกัน 2. การระงับอัคคีภัย
โดยในการป้องกันจะมีการดำเนินการ 3 ช่วงคือ
1. ก่อนเกิดเหตุ ทำโดยการจัดฝึกอบรม การตรวจตรา การรณรงค์ป้องกันอัคคีภัย
2. ขณะเกิดเหตุ ดำเนินการดับเพลิง การอพยพหนี การบรรเทาทุกข์
3. หลังเกิดเหตุ ต้องมีการปฏิรูปฟื้นฟู
แผนการจัดการด้านอัคคีภัย มีคำคล้องจองให้จำคือ ให้ความรู้ ดูเครื่องมือ ฝึกปรือแผน
และได้ให้ดูตัวอย่างของอุปกรณ์แบบต่างๆในการแจ้งเหตุ สปริงเกอร์ ไฟ alarm
***************************************************************
ครูฝึกสงัด ได้ให้ความรู้ต่อในเรื่องวิธีการดับไฟ โดยสอนให้รู้จักถังดับเพลิงสีต่างๆ
ในการฝึกวิธีการจับเครื่องดับเพลิง
ดึง ปลด กด ส่าย

พวกเราสองสามคนได้ลองฝึกกับถังดับเพลิง(ชนิดไม่มีน้ำยาดับเพลิง)
ถังดับเพลิงจะทำงานได้ดีภายในหนึ่งปี หรือยอมให้ได้ถึงสองปีสำหรับถังใหม่ ถังที่ใช้มานานยังใช้ได้แต่ไม่ดีเท่า ให้ไปอัดน้ำยาใหม่ถ้าไม่ได้ใช้หลายปี เช่น ห้าปี ถังที่เกินสิบปีควรเปลี่ยนไปแต่หมายถึงถังที่เคยอัดน้ำยาเรื่อยๆ ระวังเรื่องสนิม
การบำรุงรักษาให้ตรวจดูความเรียบร้อยของถัง ระวังการอุดตัน

การใช้สายยางดับเพลิง
ครูฝึกอิทธิเดช ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับพื้นที่ทำงานบางส่วนของเราที่ควรปรับปรุงเช่น ห้อง theater ให้ติดอักษรสีแดงเรืองแสง ของเราไม่เรืองแสง
การค้นหาผู้ประสบภัยที่นี่ล่อแหลม ไม่มีทางออกฉุกเฉิน ยังไม่มีแผนที่การหนีไฟ
ครูฝึกสอนให้ผู้เชือกและวิธีการใช้เชือกในการหนีไฟ

เราได้ลองฝึกการอพยพกันจริงๆ ปีนี้มีการโรยตัวลงมาจากชั้นสองด้วย ตื่นเต้นมาก เสร็จแล้วยังไปฝึกการใช้สายน้ำดับเพลิง และทดลองใช้ถังดับเพลิงกับไฟที่ลุกจริงๆ สนุกสนานปนเสียวกันเลยทีเดียว

สรุปว่าได้รับการอบรมต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ก็ดีใจที่เราได้ทำงานต่อเนื่องแบบนี้

Monday, March 15, 2010

ดีทอกซ์กันซักสิบวันนะคะ

มีสาวสวยหุ่นดีแนะนำว่าเราควรจะกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ อารมณ์ประมาณทำดีทอกซ์ล้างลำไส้กันซักสิบวัน ถึงจะหุ่นดีไม่เท่าน้องเขาแต่ก็เห็นด้วย เราก็เริ่มโครงการกัน วันนี้เป็นวันดีเดย์ค่ะ

15 มีนาคม 2553 ชั่งน้ำหนักตอนเช้า ... กิโล ไม่บอกหรอก :)

อาหารเช้าที่ได้คือ ฝรั่งสับเป็นชิ้นน่าจะประมาณ 1 ลูกขนาดกลาง ชมพู่ผ่าชิ้น 1 ผล น้ำสับปะรดกับเซลเลอรี 1 ถุง
อร่อยดี แต่น้อยจังเนอะ จะไหวมั้ยเนี่ย ..:)

ตอนกลางวัน เป็นข้าวกล้อง 1 จาน กินกับผักกระเพราเต้าหู้แครอท และมีแกงเลียงผักรวมอีก 1 ถ้วย กินข้าวเหลือเพราะกับหมดไปก่อน ป้าจู(คนทำ) บอกว่า จริงๆเขาให้กินน้อย แต่ป้าเพิ่มให้นิดกลัวไม่อิ่ม ก็เลยบอกป้าว่า เอาประมาณนี้ก็พอค่ะ
แอบไปกินตั้งแต่ 11 โมงครึ่ง เพราะต้องกลับบ้เนตอนเที่ยง และบ่ายมีงาน แต่ก็รอดูเพื่อนผู้ร่วมอุดมการณ์อีก 3 คน พี่ต่าย พี่สุและน้องน้อย ดูจะมีความสุขกันดีทุกคน

ตอนเย็นต้องรีบอกไปงานศพก็เลยไปกินข้าวก่อนตั้งแต่ยังไม่ห้าโมงเย็น อาหารอร่อยมทากเป็นสลัดผักผลไม้ มีผักสลัด แอปเปิ้ล ลูกเกด ฝรั่ง น้ำสลัดอร่อยมากๆ มีแกงจืดกระหล่ำปีกับเห็ดอีกหนึ่งถ้วย

16 มีนาคม 2553 วันที่สอง
อาหารเช้า เป็นมะม่วงน้ำดอกไม้สุก 1 ผล หั่นชิ้น น้ำส้มกับแครอทอีกหนึ่งถุง(ประมาณ 2 แก้ว)